กรุงเทพฯ 20 พ.ค.- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยเดือนเมษายน 2564 มียอดผลิตรถยนต์ 104,355 คัน เพิ่มขึ้นจากเมษายน 2563 ร้อยละ 322.30 ยอดขาย 58,132 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.1 ส่งออก 52,880 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 160.16
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ในเดือนเมษายน 2564 ว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2564 มีทั้งสิ้น 104,355 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 322.30 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 35.79 การผลิตเพิ่มขึ้นมากจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก ต้นปี 2563 แต่ยอดผลิตยังต่ำกว่าเดือนเมษายน 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ร้อยละ 30.44
สำหรับเป้าการผลิตที่ 1.5 ล้านคัน ในปี 2564 เป็นเป้าต่ำสุดที่คำนึงถึงการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 เมื่อต้นปี และระลอกใหม่ตลอดปี 2564 รวมทั้งการขาดแคลนชิปที่ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยต้องหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะ ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ เพราะยังกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากขึ้น ว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องการขาดแคลนชิปที่ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ ทั้งในประเทศและทั่วโลกหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะๆ
ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-เมษายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 570,188 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-เมษายน 2563 ร้อยละ 19.19 เป็นยอดผลิตของรถยนต์นั่ง จำนวน 202,863 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.06 ส่วนการผลิตเพื่อส่งออก ผลิตได้ 330,379 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.45 ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ผลิตได้ 239,809 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.77
ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเมษายน 2564 มีจำนวน 58,132 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 93.1 โดยเพิ่มขึ้นจากฐานต่ำปีที่แล้ว ที่มีการล็อกดาวน์และขอให้ประชาชนอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่ยอดขายยังต่ำกว่าเดือนเมษายน 2562 ร้อยละ 23.45 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 21.76 ลูกค้าที่จองขอเลื่อนการรับรถยนต์ไปก่อน เพราะไม่มั่นใจเรื่องรายได้ในอนาคตจากการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งบริษัทปล่อยสินเชื่อก็เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อด้วย
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนเมษายน 2564 ส่งออกได้ 52,880 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 160.16 เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์ แต่ยังส่งออกน้อยกว่าเดือนเมษายน 2562 ร้อยละ 21.21 และน้อยกว่าเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 49.40 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 30,071.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ร้อยละ 142.73 อย่างไรก็ตาม จากการมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นของประเทศคู่ค้า ทำให้ยอดขายของประเทศคู่ค้าในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เติบโตอย่างโดดเด่นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน เช่น ประเทศออสเตรเลีย เติบโตร้อยละ 127 ญี่ปุ่นเติบโตร้อยละ 29 เวียดนามเติบโตร้อยละ 75.-สำนักข่าวไทย