สพฉ.เร่งสืบข้อเท็จจริงอดีตนักบอลทีมชาติเสียชีวิต

กรุงเทพฯ22 ก.พ.- สพฉ.เสียใจอดีตกองหลังทีมชาติไทยเสียชีวิต แจงเวลาแจ้งเหตุยังสับสน ยัน เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการประสานขอรถ รพ.ทันที ชี้ ระบบบันทึกการรับผู้ป่วยถึงจุดเกิดเหตุภายใน 7 นาทีหลังรับแจ้งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  เตรียม หาข้อเท็จจริงพัฒนาระบบต่อ


 

นพ.ภูมินทร์  ศิลาพันธ์  รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีที่นายบุญธรรม บูรณธรรมานันท์ อดีตกองหลังทีมชาติไทย หัวใจวายระหว่างการฝึกซ้อมฟุตบอล ในสนามกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และเสียชีวิต ว่า สพฉ.ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าเพื่อนผู้ป่วยวิ่งมาแจ้งที่สพฉ.ว่า ผู้ป่วยมีอาการชัก ในเวลาประมาณ 17.30 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์สั่งการได้แจ้งไปยังศูนย์สั่งการ 1669 จ.นนทบุรีในทันที


 

ซึ่งศูนย์สั่งการจังหวัดนนทบุรีแจ้งว่า ได้รับแจ้งเหตุแล้วขณะนี้รถฉุกเฉินอยู่ระหว่างกำลังเดินทาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของ สพฉ.เอง ก็กำลังเตรียมตัวที่จะออกจากตึกไปให้การช่วยเหลือ แต่เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลด้วยตนเองแล้ว

 


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลกับโรงพยาบาลบำราศนราดูร พบว่าผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่เพื่อนของผู้ป่วยมาแจ้งที่สพฉ.

 

นพ.ภูมินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับระบบที่ สพฉ.วางไว้จะมีการบันทึกเวลาชัดเจนในทุกขั้นตอน นับจากการรับแจ้ง ซึ่งในกรณีนี้ศูนย์สั่งการที่รพ.ได้รับแจ้งในเวลา17.23 น.และแจ้งไปยังโรงพยาบาลบำราศนราดูรในเวลา 17.24 น.รถออกจากโรงพยาบาลในเวลา 17.27 น. และรถโรงพยาบาลได้ถึงจุดเกิดเหตุในเวลา 17.30 น.ซึ่งคาดว่าน่าจะสวนทางกับรถของญาติที่นำส่งผู้ป่วย ทั้งนี้ ระยะเวลาที่รถพยาบาลถึงจุดเกิดเหตุถิออยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทันทีที่ระบบรับทราบเหตุ สามารถทำการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

 

“ส่วนปัญหาที่ยังไม่ชัดเจนในเวลานี้นั้น คือเวลาที่เกิดเหตุ และเวลาที่โทรแจ้งศูนย์ เป็นเวลาเท่าใดแน่ เพราะเวลาที่ถูกบันทึกในระบบ คือ 17.23 น. หากเพื่อนผู้ป่วยโทรก่อนหน้านั้น คงต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่ามีความผิดพลาดอย่างไร ยืนยันว่า สพฉ.จะพยายามสอบข้อเท็จจริงเพื่อพัฒนาระบบต่อไป” รองเลขาธิการสพฉ.กล่าว  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง