สพฉ.ดึงรถพยาบาลเอกชนเป็นกำลังสำรองระบบ 1669

20 พ.ค.- วันนี้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จัดการประชุมชี้แจงนโยบายและทิศทางการดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการขององค์กรภาคเอกชนที่เป็นนิติบุคคล (บริษัทเอกชน) โดยมีผู้แทนจากบริษัทเอกชน ที่ให้บริการรถพยาบาล ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุมและระบบออนไลน์


ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาที่ได้มีการออกประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินเรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลหน่วยปฏิบัติการแพทย์ พ.ศ.2564 สพฉ.ก็ได้ยกระดับการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินโดยเป็นการควบคุมมาตรฐานของหน่วยปฏิบัติการแพทย์ หรือหน่วยกู้ชีพ ซึ่งตามมาตรฐานนี้จะเป็นการควบคุมกำกับการดำเนินงานของหน่วยในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานบุคลากร มาตรฐานยานพาหนะ เครื่องมือสื่อสาร การจัดเก็บเครื่องมือเวชภัณฑ์ การบริหารจัดการต่างๆ ซึ่งปีนี้ สพฉ.จะได้เร่งให้หน่วยกู้ชีพทั่วประเทศ ทั้งที่ขึ้นทะเบียนไว้อยู่เดิม และที่กำลังจะขอจัดตั้งใหม่ ดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ ให้ครบทั้งหมด โดยหวังว่าจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินที่โทรแจ้ง 1669 ได้รับการคุ้มครองและมั่นใจได้ถึงมาตรฐานของหน่วยปฏิบัติการที่ออกไปช่วย

อย่างไรก็ดี จากสถิติที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉินที่มาด้วยระบบการแพทย์ฉุกเฉิน อยู่เพียงร้อยละ 20 ซึ่งเน้นที่กลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติสีแดง แต่อีกร้อยละ 80 โดยเฉพาะในกลุ่มฉุกเฉินไม่รุนแรง ไม่ได้มาด้วยระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งพบว่าปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือ อาจจะมีทีมกู้ชีพไม่เพียงพอในหลายพื้นที่ หรือในกลุ่มที่เป็นคนไข้ไม่ฉุกเฉินแต่มีความจำเป็นต้องใช้รถพยาบาล เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุแพทย์นัด ในกลุ่มนี้ก็ไม่สามารถขอรถจาก 1669 ได้เช่นกัน สพฉ. จึงได้มองไปยังกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจให้บริการรถพยาบาลภาคเอกชน ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจมานานแล้ว และมีกว่าร้อยราย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานที่ชัดเจนในการกำกับดูแลมาตรฐาน ซึ่งทำให้เกิดข้อจำกัดในการขออนุญาตดำเนินการให้ถูกกฎหมายต่าง ๆ เช่น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก การขอใช้สัญญานไฟและเสียงของตำรวจ การขอใช้วิทยุสื่อสาร การขอยกเว้นภาษี รวมทั้งการควบคุมมาตรฐานทางวิชาชีพ


“สพฉ. มองว่ากลุ่มรถพยาบาลเอกชนจะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการให้การดูแลผู้ป่วย ทั้งผู้ป่วยไม่ฉุกเฉินตามบ้าน หรือผู้ป่วยฉุกเฉินในงานกีฬา งานอีเว้นท์ต่างๆ แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชน สพฉ. ก็จะให้บริษัทรถพยาบาลเอกชน ดำเนินการจัดทำมาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินเรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลหน่วยปฏิบัติการแพทย์ พ.ศ. 2564 เช่นเดียวกับหน่วยกู้ชีพ 1669 ทั่วประเทศ โดยเมื่อผ่านการรับรองแล้วก็สามารถดำเนินการในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกกฎหมาย และแม้จะไม่ใช่หน่วยปกติที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ในการให้บริการในจังหวัด แต่จะเป็นหน่วยเสริมหากรถในระบบมีไม่เพียงพอหรือในยามที่เกิดสาธารณภัยเหมือนในช่วงโควิด 19 ที่รถในกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว.-411-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว