สธ.18 พ.ค.-“อนุทิน” เพิ่มคู่สาย “หมอพร้อม” อีก 180 คู่สาย ตอบข้อซักถามลงทะเบียนไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ 09.00-22.00น. ขณะที่สภาอุตฯ เผยยอดความต้องการวัคซีนฉีดในแรงงานในนิคมต่างๆ มีล้านโดส เตรียมนำร่องฉีดใน 3 นิคม อยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร เพื่อช่วยลดการติดเชื้อ เพราะหากติดเชื้อมูลค่าความเสียหายตก 8 ล้านบาทต่อวัน หากต้องปิดโรงงานนับเดือนสูญแสนล้านบาท
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เยี่ยมชมความพร้อมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ “หมอพร้อม” ว่า วันนี้ทางภาคเอกชนได้มอบอุปกรณ์การสื่อสารและคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการทำงานของหมอพร้อม โดยนำนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีมาช่วยรับโทรศัพท์ และสื่อสารกับผู้ที่โทรศัพท์มาสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ หมอพร้อม ที่หมายเลข 02 792-2333 ซึ่งตอนนี้ได้เพิ่มคู่สายมาตอบข้อซักถามอีก 180 คู่สาย ให้บริการตั้งแต่ 09.00-22.00 น.
ส่วนใหญประชาชนโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องการลงทะเบียนหมอพร้อม แต่ละวันมีผู้โทรศัพท์มาสอบถาม 5,000 สาย แต่สามารถรับได้ 3,000 สาย
ส่วนการสนับสนุนภาคเอกชนในการฉีดวัคซีนให้องค์กร หน่วยงานทำหนังสือส่งมา ศบค.พิจารณา เรื่องการจัดสรรวัคซีน และเมื่อ ศบค.อนุมัติส่งเรื่องมายังกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นก็จะจัดสรรวัคซีนให้ตามต้องการ ส่วนแนวทางการฉีดจะให้ประสาน หรือ รพ.เอกชนช่วยฉีดหรืออย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละบริษัท หรือจังหวัดนั้นๆ บริหารจัดการ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการสำรวจความต้องการวัคซีนในสมาชิกสภาอุตสาหกรรมที่มีกว่า 3,000 บริษัท พบว่ามีความต้องการวัคซีนถึง 1 ล้านโดส โดยเตรียมนำร่องฉีดใน 3 นิคมอุตสาหกรรมก่อน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมพระนครศรีอยุธยา นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร นิคมอุตสาหกรรมปทุมธานี
ส่วนการจัดสรรเบื้องต้น จะประสานและทำวันนัดหมายฉีดวัคซีนเป็นรายบริษัท โดยแต่ละนิคมมีความพร้อมเรื่องสถานที่แล้ว เหลือแต่มีวัคซีนมาถึงสามารถดำเนินการฉีดได้ โดยวัคซีนที่ได้รับนี้เป็นวัคซีนสนับสนุนจากส่วนกลางของรัฐและไม่เกี่ยงยี่ห้อ ต้องการฉีดให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างภูมิ คุ้มกันให้เร็วที่สุด เพราะหากต้องปิดสถานประกอบการ จะเกิดความมูลค่าเสียหายตัวเลข 7-8 หลักต่อวัน เนื่องจากความเสียหายเฉลี่ยแสนล้านบาทต่อเดือน
นายสุพันธุ์ ยังกล่าวว่า การรับวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ ได้เข้าไปให้ความรู้กับพนักงานในนิคมแล้ว โดยการฉีดเชื่อว่าจะเป็นสมัครใจในการรับ โดยยกตัวอย่างในนิคมฯจังหวัดสมุทรสาครมี 130 บริษัท เฉลี่ยฉีดวัคซีนได้ประมาณ 10,000 คน เรื่องนี้สามารถประสานฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทได้ เพื่อให้ได้ตัวเลขคนรับวัคซีนอย่างชัดเจน ทั้งนี้การฉีดยังเน้นกลุ่มแรงงานไทยเป็นหลัก ยังไม่ทำในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ .-สำนักข่าวไทย