กรุงเทพฯ 12 พ.ค.- รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ยังมั่นใจแผนฟื้นฟูจะผ่านการพิจารณาของเจ้าหนี้ แม้ที่ประชุมเจ้าหนี้วันนี้จะขอเลื่อนโหวตไป 19 พ.ค.64
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประฃุมเจ้าหนี้ของการบินไทย เพื่อพิจารณาโหวตแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งล่าสุด เจ้าหนี้ได้เลื่อนการโหวต ไปวันที่ 19 พ.ค.นั้น โดยนายชาญศิลป์ยังแสดงความมั่นใจว่า ท้ายสุดเจ้าหนี้จะโหวตผ่านแผนแน่นอน เนื่องจากในวันนี้ เจ้าหนี้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงมากกว่าร้อยละ 20 เห็นด้วยกับแผนแล้ว และการพิจารณาถือว่าแคบลงมาก
“แม้วันนี้จะไม่สามารถพูดได้ว่าแผนฯ จะผ่าน 100 % แต่ ก็ถือว่าใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด เจ้าหนี้ส่วนใหญ่เข้าใจถึงแนวทางของแผนฟื้นฟู ที่ทางผู้ทำแผนวางไว้”นายชาญศิลป์กล่าว
นายชาญศิลป์ ระบุด้วยว่า เมื่อแผนฟื้นฟูผ่านก็จะนำไปสู่การเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา การบินไทย ใช้ความพยายามในการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ 36 กลุ่ม ซึ่งต้องยอมรับว่าแต่ละกลุ่มมีความต้องการต่างกัน โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ พยายามใช้แนวทางที่เจ้าหนี้รับได้มากที่สุดื คือแนวทางการยืดการชำระหนี้ออกไป ไม่ได้มีการขอลดหนี้เงินต้น ซึ่งในส่วนนี้ทราบดีว่าสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ที่การบินไทยยังไม่กลับมาบินได้ปกติ ก็จะเจรจา ของยืดการชำระหนี้ ที่ครบกำหนด 1-4 ปีแรกออก ไป
ส่วนประเด็นเรื่องการกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ หรือไม่ และจะใส่สภาพคล่องเพื่อให้การบินไทย เดินหน้ากิจการต่อ 50,000 ล้านบาทนั้น นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การที่จะมีทุนเข้ามาแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ รัฐเข้ามา หรือกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเรื้องนี้ บางคนตั้งข้อสังเกตุว่า การกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ การจัดการจะดีไหม ในส่วนนี้ต้องเข้าใจว่า รัฐวิสาหกิจที่การจัดการดีก็มี ในส่วนนี้คืออันแรกคือรัฐเข้ามา ซึ่งเจ้าหนี้ เห็นว่าเป็นแนวทางที่ดำเนินการได้ง่าย แต่การดำเนินการของรัฐ มีขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งสุดท้ายต้องไปดูว่ารัฐจะมาได้ไหม
ส่วนที่ 2 คือการเข้ามาโดยเอกชน ซึ่งแบ่งการเข้ามาได้ 2 ส่วน คือการกู้ หรือลงทุน ซึ่งเบื้องต้น ก็ต้องให้เจ้าหนี้โหวดผ่านแผนฟื้นฟูก่อน หลังจากนั้น กลุ่มทุนใดจะเข้ามา ในลักษณะใด ลงทุนเท่าไหร่ ก็จะเป็นขั้นตอนของการเจรจาต่อไป
รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาการปรับโครงสร้างองค์กร ของการบินไทย ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของการลด จำนวนพนักงาน ให้สอดคล้องกับการปฎิบัติงานในอนาคต โดยการบินไทย ได้ปรับลดบุคลากร จาก 29,000 คน ลงเหลือขณะนี้ประมาณ 16,500 คน และในสิ้นปี 2564 ถึงต้นปี 2565 การบินไทย จะเหลือพนักงานที่ปฎิบัติ ประมาณ 15,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมบังคับคดี ถึงกรณีการจัดประชุมเจ้าหนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในวันนี้ (12 พ.ค.) ผลปรากฏว่า เจ้าหนี้หลายราย โดยเฉพาะเจ้าหนี้รายใหญ่ที่มีการเสนอแก้แผนฟื้นฟูการบินไทย ลงมติให้มีการเลื่อนโหวตพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยออกไปก่อน เนื่องจากเจ้าหนี้หลายรายมีความเห็นว่าแผนฟื้นฟูการบินไทยยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งมีเจ้าหนี้หลายรายเพิ่งรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแผนฟื้นฟู ทั้งนี้จะมีการจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อโหวตแผนอีกครั้ง ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 9.00 น. โดยในส่วนของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) ซึ่งเป็น1ในเจ้าหนี้ 15 ราย ที่เสนอขอปรับแผนฟื้นฟู ก็ ขอความมั่นใจจากการบินไทย เรื่อง การดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย และ การปฏิบัติการการบินซึ่งการบินไทยก็รับไปปรับปรุง
สำหรับสาเหตุที่เลื่อนการประชุมโหวตแผนเจ้าหนี้ออกไปนั้น เนื่องจากเจ้าหนี้กว่า 20 ราย อ้างการว่าคำขอแก้ไขแผน 15 ฉบับ ไม่สามารถพิจารณาได้ทัน เนื่องจากได้รับกระทันหัน จึงเสนอขอให้เลื่อนโหวตแผนออกไป โดยเจ้าหนี้ 20 รายดังกล่าวนี้ มีมูลหนี้รวมกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 24.4% จากจำนวนมเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมประชุม มูลหนี้ 1.33 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหนี้ 20 รายดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าผ่านผลิตแห่งประเทศไทย สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สหกรณ์ออมทรัพย์ธรรมศาสตร์ สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สหกรณ์ออมทรัพย์องค์การเภสัชกรรม และสหกรณ์พนักงานการบินไทย เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย