“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

วอชิงตัน 14 พ.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด


นายทรัมป์ เดินทางกลับไปยังทำเนียบขาวเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรก หลังชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันอังคารที่แล้ว และเข้าหารือเกี่ยวกับการถ่ายโอนอำนาจกับนายไบเดน โดยหารือกันในห้องทำงานรูปไข่ หน้าเตาผิงที่กำลังลุกโชน นายไบเดน ให้คำมั่นกับทรัมป์ว่าจะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น และทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าทรัมป์จะได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ขณะที่นายทรัมป์ กล่าวว่า มันจะราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การหารือแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครั้งนี้ ถือว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับถ้อยคำที่ทั้งสองคนเคยออกมาตอบโต้กันนานหลายปี ทีมงานของทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างมากในเรื่องนโยบายต่าง ๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงรัสเซียและการค้า นายไบเดน วัย 81 ปี เคยระบุว่า นายทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย ขณะที่นายทรัมป์ วัย 78 ปี บอกว่า นายไบเดนไร้ความสามารถ และเคยกล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่ามีการโกงการเลือกตั้งอย่างแพร่หลาย หลังจากที่เขาแพ้เลือกตั้งให้กับไบเดนในปี 2020


ในส่วนของความคืบหน้าการแต่งตั้งบุคคลให้เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญเพิ่มเติมในรัฐบาลใหม่ของทรัมป์ ล่าสุด นายทรัมป์ได้เสนอชื่อ มาร์โก รูบิโอ สว. จากรัฐฟลอริดา ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นายรูบิโอเป็นคนเชื้อสายละตินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายทรัมป์ยังเสนอชื่อนายจอห์น เรตคลิฟฟ์ พันธมิตรใกล้ชิด ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง หรือ ซีเอไอ หลังจากแรตคลิฟฟ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ช่วงที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ปิดท้ายด้วยการเสนอชื่อ แมตต์ แกตซ์ สส. รัฐฟลอริดา องค์รักษ์คนสำคัญของนายทรัมป์อีกคนในสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรมด้วย ซึ่งคนวงในของนายทรัมป์เชื่อว่า แกตซ์จะมีภารกิจสำคัญในงานด้านกฎหมาย ทั้งเรื่องการผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศตามนโยบายของนายทรัมป์ ล้างผิดให้กับผู้ก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาหลังการเลือกตั้งปี 2020 และเอาคืนคนกลุ่มต่างๆ ที่เคยเล่นงานทางกฎหมายเพื่อเอาผิดทรัมป์ในหลายคดีตลอดช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่าสุด พรรครีพับลิกันของทรัมป์ก็สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้อย่างแน่นอนแล้ว ด้วยการคว้าที่นั่งอย่างน้อย 218 ที่นั่ง และอาจได้มากถึง 220-222 ที่นั่งเมื่อนับคะแนนส่วนที่เหลืออีก 9 ที่นั่งเสร็จสิ้น ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ 208 ที่นั่ง.-815.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]