รมว.กลาโหม หนุนวิจัย ผลิตยุทโธปกรณ์

สปท. 15 พ.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม หนุน สทป. ผนึกกำลังเหล่าทัพ-เอกชนในประเทศ สร้างนักวิจัย ร่วมผลิตยุทโธปกรณ์ ให้ตอบโจทย์กองทัพและพร้อมรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ชี้เป็นโจทย์ที่ท้าทายและต้องใช้เวลา เชื่อคนไทยมีศักยภาพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางตรวจเยี่ยมสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง เพื่อรับทราบภารกิจ ขีดความสามารถ และผลการดำเนินงานที่สำคัญ รวมถึงผลงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ การส่งเสริมสนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ตลอดจนการพัฒนาสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่ออุตสาหกรรมนี้ พร้อมทั้งมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่สถาบันฯ


โดยมี พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พล.อ.ดร.ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบัน ให้การตอนรับ

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สักการะพญาคชสีห์ เยี่ยมชมผลงานวิจัยและพัฒนาที่โดดเด่น รับฟังบรรยายสรุปภารกิจของสถาบัน ลงนามในสมุดเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมผลงานโครงการพัฒนาระบบความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) และศูนย์ฝึกอบรมระบบอากาศยานไร้คนขับ (DTI-UTC) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในโอกาสพิเศษนี้ พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ได้มอบเครื่องหมายกิตติมศักดิ์และประกาศนียบัตรผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับให้แก่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นเกียรติในโอกาสเยี่ยมชมสถาบัน


รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ให้การต้อนรับในวันนี้ หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานและผลงานของสถาบันแล้ว ผมมั่นใจว่าสถาบันมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อตอบสนองความต้องการและความพร้อมรบของกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคง รวมทั้งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเป็นหน่วยงานสำคัญภายใต้กระทรวงกลาโหมที่มีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์อย่างมีมาตรฐานและเชื่อถือได้ ผมเชื่อมั่นว่าสถาบันจะสามารถต่อยอดผลงานไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ รวมถึงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต”

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ คือกลไกก้าวสำคัญในการนำพาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยก้าวไปข้างหน้า การตรวจเยี่ยมครั้งนี้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของสถาบันในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศไทยในระดับนานาชาติ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การมาตรวจเยี่ยมที่ สทป. ในครั้งนี้เนื่องจากเป็นองค์กรมหาชนภายใต้การดูแลของ กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศไปถึงจุดขั้นสูงสุดให้ได้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ของประเทศ ซึ่งถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนา ในหลายด้าน เช่นการผลิตกระสุนปืน จรวด และโดรน จึงขอชื่นชมความสามารถของนักวิจัย สทป. แต่สิ่งที่สำคัญต้องตอบโจทย์ผู้ใช้คือเหล่าทัพ เพราะปัญหาในขณะนี้คือการใช้งานในประเทศต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าของที่เราผลิตนั้นได้มาตรฐาน ซึ่งทราบว่ามีบางส่วนที่เราผลิตขึ้นมาและส่งไปตรวจสอบมาตรฐานในต่างประเทศแล้ว


ทั้งนี้ หากสร้างความมั่นใจในการใช้ในประเทศได้ก็จะนำไปสู่การขายให้กับประเทศต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งนี้ได้กำชับถึงนโยบายการพัฒนาสิ่งต่างๆ เหล่านี้โดยเฉพาะคุณภาพและประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานและเชื่อมั่นว่านักวิจัยของ สทป. ในการสร้างเครื่องมือและ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ เท่านี้ยังไม่เพียงพอ ต้องเรียนรู้และพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก เพราะจุดอ่อนของบ้านเราคืองานวิจัยมักจะไม่ถูกนำมาใช้ และงานวิจัยบางทีไม่ได้ทำแบบองค์รวม เป็นการแยกส่วนดังนั้นต้องตั้งเป้าหมายและทิศทางให้ชัดเจน เพราะสิ่งสำคัญคือเราเคยชินกับการซื้อยุทธโธปกรณ์ หากจะมีการเปลี่ยนผ่านก็คงต้องร่วมมือกับบริษัทที่เป็นคู่ค้า ในเรื่องของการให้เทคโนโลยี ของการเข้ามาร่วมทุนในประเทศ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากการพัฒนาด้าน ยุทโธปกรณ์แล้ว เรายังจะต้องให้ความสำคัญกับภัย คุกคามรูปแบบใหม่ ถือว่าเป็นความท้าทายของกองทัพ ที่จะพัฒนาตนเองในการรองรับรูปแบบใหม่เหล่านี้ และตนมีแนวคิดที่จะจัดสัมมนา ร่วมกันของเราทัพ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้ไปในทิศทางเดียวกัน และจัดลำดับความสำคัญ เพิ่มทักษะความรู้ของนักวิจัยในประเทศ เชื่อมั่นว่าคนไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศ.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

จากสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท

จากปี 2495 ของช่อง 4 บางขุนพรหม จุดเริ่มต้นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท ในปี 2568 มีการเปลี่ยนผ่านพัฒนาการในแวดวงสื่อสารมวลชนหลายยุคหลายสมัยมาอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงาน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้