นนทบุรี 26 เม.ย. – กรมการค้าภายในจับมือห้างทั่วประเทศ เตรียมเสริมสตอกสินค้าอุปโภคและบริโภคจำเป็นต่อการครองชีพ พร้อมจับมือแพลตฟอร์มขอไม่ขึ้นค่าบริการในการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีสถานการณ์ความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ในหลายจังหวัดได้มีมาตรการปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับหากเกิดภาวะวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น กรมการค้าภายในจึงได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมหารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมสตอกสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากภาวะปกติ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง น้ำดื่ม อุปกรณ์ทำความสะอาด ตลอดจนของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าในชั้นวางอยู่เสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมทั้งได้เน้นย้ำไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า และต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน สำหรับการสั่งซื้อสินค้า online ได้หารือผู้ประกอบการให้บริการส่งสินค้าและสั่งซื้ออาหาร online ขอความร่วมมือไม่ให้มีการปรับราคาค่าบริการ และให้เข้มงวดด้านสุขอนามัยของพนักงานส่งสินค้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นอกจากนี้ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้สินค้าในห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ยังคงมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แม้ในช่วงนี้อาจจะมีลูกค้าบางคนที่มีปริมาณการซื้อสินค้าแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นบ้าง เพราะต้องการซื้อเก็บไว้ ไม่ต้องการออกจากบ้านๆ บ่อย แต่โดยรวมแล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไร และยังไม่พบการกักตุนสินค้า
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้สอบถามห้างค้าปลีก-ค้าส่งทุกรายต่างมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องกักตุน และผู้ให้บริการ platform ยันไม่มีการปรับราคาค่าบริการ
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท . – สำนักข่าวไทย