กฟผ.เพิ่มงบหนุน รพ.สนาม

กรุงเทพฯ 20 เม.ย. -กฟผ. เพิ่มงบอีก 50 ล้านบาท สนับสนุนโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ รับมือวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ด้าน MEA เผยคืนเงินประกันไฟฟ้าแล้วกว่า 6,209 ล้านบาท


นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอก 3 ทำให้มีผู้ป่วยและผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 25 จังหวัด เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น

กฟผ. ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มอีกจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินการของโรงพยาบาลสนามทุกภูมิภาคทั่วประเทศ  โดยจะนำไปซื้ออุปกรณ์ในการผลิตตู้ตรวจโควิด ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้เข้ารับการตรวจคัดกรองจำนวนมากได้ รวมถึงผลิตเสากดแอลกอฮอล์เจลแบบเท้าเหยียบ อีกทั้งยังเตรียมไว้สำหรับจัดหาอุปกรณ์ป้องกันและสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้ในโรงพยาบาลสนาม ทั้งสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย เช่น หมวกคลุมผม ชุด PPE หน้ากากอนามัย ผ้าห่ม ENGY พัดลม และน้ำดื่ม กฟผ.


ในการแพร่ระบาดระลอกนี้ มีโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขอรับการสนับสนุนตู้ตรวจโควิดจาก กฟผ. ไปแล้ว จำนวน 450 ตู้ โดยพนักงานจิตอาสา กฟผ. ทั่วประเทศได้เร่งผลิตตู้ดังกล่าวอย่างเต็มกำลัง และเตรียมพร้อมรองรับความต้องการของโรงพยาบาลสนามอื่น ๆ ที่จะมีเข้ามาอีกในอนาคตด้วย

ด้าน การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA  แจ้งว่าจากที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นมานั้น ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 มีผู้ได้รับเงินแล้วทั้งสิ้นประมาณ 2.3 ล้านรายการ คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6,209 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้ายังสามารถลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2256 3333 โดยไม่มีปิดการลงทะเบียน รวมถึงตรวจสอบสถานะการขอคืนเงิน รวมถึงตรวจสอบรหัสการยืนยันการรับเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของท่านได้ที่ https://measy.mea.or.th (ในฟังก์ชันตรวจสอบเรื่อง) โดยกรอกรหัสประจำตัวประชาชน หรือรหัสประจำตัวผู้เสียภาษี พร้อมกับหมายเลขรับเรื่อง 10 หลัก -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง