ททท.16เม.ย.- มองโลกแง่ดี ททท.เชื่อยาแรงรัฐบาลคุมโควิด หากเป็นไปตามแผน ภาคท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นได้เร็วสุด พ.ค.นี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย( ททท.) กล่าวถึงผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และมาตรการที่ทางรัฐบาลจะประกาศออกมาในช่วงเย็นวันนี้ว่าจะมีผลต่อภาพรวมการท่องเที่ยวไทยอย่างไร
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยว จากมาตรการต่างๆที่ภาครัฐออกมา หากมี 3 เรื่อง คือ 1. การจำกัดการเดินทาง 2.การเคลื่อนย้ายผู้คน และ 3.การรวมผู้คนจำนวนมาก หากมีมาตรการใดมาตรการหนึ่งแตะใน 3 ปัจจัยเหล่านี้ แน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวของคนในประเทศ รวมไปถึงมาตรการควบคุมโรคที่ภาครัฐเตรียมที่จะเพิ่มระดับความเข้มข้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ถ้าหากมองข้อมูลจากในช่วงปีที่ผ่านมาที่มีการระบาดโควิด หากเข้าสู่ช่วงขาลงของการระบาดเมื่อไหร่การท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว ลืมตาอ้าปากได้ ก็จะต้องนับไปอีก 14-28 วัน ซึ่งจากข้อมูลที่กรมควบคุมโรคระบุว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นของการระบาดระลอกใหม่ และคาดว่ามาตรการต่างๆที่จะออกมาเพื่อควาคุมการแพร่ระบาด เชื่อว่าอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น
หากมองโลกในแง่ดี ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขคาดการณ์ไว้ การท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมานับ 1 ได้อีกครั้ง อย่างเร็วที่สุดก็จะเกิดได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ หากเป็นไปตามนี้จะสอดคล้อง ล้อกับโครงการ เราเที่ยวด้วยกันฟส 3 ที่จะเริ่มเปิดจองใช้สิทธิ์ 7 พฤษภาคมนี้ และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่จะเริ่มในเดือนพฤษภาคมเช่นกัน ก็จะยิ่งเป็นการสร้างแรงกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ส่วนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย โดยนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนตัวมองว่า ไทม์ไลน์ในโครงการนี้ มาตรการต่างๆที่จะออกมาจากรัฐบาลในเย็นวันนี้ น่าจะไม่กระทบ เพราะปัจจัยสำคัญในโครงการนี้ คือ การกระจายวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรในจังหวัดภูเก็ตให้ได้ อย่างน้อยร้อยละ 60-70 % ของประชากรทั้งหมด หากมองจากช่วงกำหนดเวลาที่จะเริ่มเปิดจังหวัดรับชาวต่างชาติในเดือนกรกฎาคม น่าจะยังพอมีเวลา จึงเชื่อว่าไม่น่ากระทบ .-สำนักข่าวไทย