พม.ช่วยเหลือหญิงป่วยไทรอยด์-เลี้ยงหลานอีก 2 คน

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.-ศูนย์ช่วยเหลือสังคมฯ พม.ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวหญิงวัย 52 ปี ป่วยเป็นโรคไทรอยด์และโรคหัวใจ รับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูหลาน 2 คน ที่ย่านบางคอแหลม


 

บ่ายวันนี้ (30 ธ.ค.) นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(รองปลัด พม.) พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน1300 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวและช่วยเหลือกรณีหญิงวัย 52 ปี ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์และโรคหัวใจและต้องรับภาระเลี้ยงหลาน 2 คน เพียงลำพัง ครอบครัวมีฐานะยากจน ณ บ้านเช่าเลขที่ 306/14 ซอยเจริญกรุง 107 แยก 15 ชุมชน บางคอแหลมซอยย่อย 12/1 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม  กรุงเทพฯ


 

นางนภา กล่าวว่า จากกรณีหญิงวัย 52 ปีได้ประสานศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 เพื่อขอความช่วยเหลือครอบครัว โดยหญิงดังกล่าวอาศัยอยู่กับหลาน 2 คน เป็นหลานชายอายุ 9 ขวบ กำลังศึกษาชั้น ป.3 และหลานสาวอายุ 3 ขวบ ซึ่งพ่อแม่เด็กทั้ง 2 คนทอดทิ้งไป และไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดูนั้น ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.)กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และสำนักงานเขตบางคอแหลม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ

 


นางนภา กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบหญิงดังกล่าวเคยประกอบอาชีพพนักงานทำความสะอาดแต่ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน จึงต้องลาออกจากงานประจำและมารับจ้างร้อยพวงมาลัยแทน ซึ่งรายจ่ายของครอบครัว ประกอบด้วย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำและค่าไฟ อีกทั้งยังมีโรคประจำตัว ป่วยเป็นโรคไทรอยด์และโรคหัวใจ จึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทำให้ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย นอกจากนี้หลานสาวยังมีอาการป่วย น้ำลายไหลเวลาที่พูดคุย ซึ่งอาจจะมีภาวะพัฒนาการช้าแต่ยังไม่ได้รับการตรวจประเมินจากแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และยังไม่มีเอกสารหลักฐานการแจ้งเกิด เนื่องจากพ่อแม่ทอดทิ้งไป ตั้งแต่อายุ 8 เดือน ทำให้เด็กยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา

 

“เบื้องต้น บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร กรมกิจการเด็กและเยาวชน(ดย.)มอบเงินสงเคราะห์เด็ก พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.)มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง และสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือในระยะต่อไป หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จะร่วมกันหาแนวทางดูแลเรื่องสภาพความเป็นอยู่ครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเหมาะสม รวมทั้งเรื่องการศึกษาเด็กทั้ง 2 คนในระยะยาวต่อไป พร้อมส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว” นางนภา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง