นิวเดลี 7 เม.ย. – การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2 ในอินเดียยังคงรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 115,736 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขเพิ่มขึ้น 13 เท่าในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน ทำให้รัฐบาลอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ต้องชยายโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
รัฐบาลกลางของอินเดียขอให้รัฐต่าง ๆ ตัดสินใจเรื่องการใช้มาตรการของตนเองในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลกลางยังไม่ยอมประกาศมาตรการล็อกดาวน์ระดับชาติออกมาบังคับใช้ หลังจากที่ใช้มาตการล็อกดาวน์ไปครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนหลายล้านคนหมดตัวไปตาม ๆ กัน จำนวนสะสมของผู้ติดโควิด-19 ในอินเดีย ตั้งแต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้อยู่ที่ 12.8 ล้านคน ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่มีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงเป็นอันดับ 3 ของโลก ตามหลังสหรัฐและบราซิล สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ 630 ราย ซึ่งมากที่สุดในรอบ 4 วัน และยอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 166,177 ราย นายหรรษ วรรธน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดีย ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ของเขาว่า การระบาดยังไม่สิ้นสุดและยังไม่มีแนวโน้มในการผ่อนปรนมาตรการคุมเช้ม พร้อมกันนั้น เขาเรียกร้องให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนเมื่อถึงคิวและปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลายรัฐวิพากษ์ตำหนิรัฐบาลกลางอินเดียว่า อินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก แต่กลับจำกัดการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่ในแนวหน้าและประชาชนที่อายุ 45 ปีขึ้นไป ขณะนี้อินเดียฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 85 ล้านโดส มากกว่าร้อยละ 90 เป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตโดยสถานบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ส่วนที่เหลือเป็นวัคซีนของบริษัทภารัต ไบโอเทค ที่พัฒนาวัคซีนร่วมกับสถาบันวิจัยของรัฐบาลอินเดีย.-สำนักข่าวไทย