5 วัน ยึดรถแล้ว 3,618 คัน

S__11739437กรุงเทพฯ 3 ม.ค.- คสช.เผยมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” 5 วัน ยึดรถแล้ว 3,618 คัน ระบุเจ้าหน้าที่ปรับการจราจร เร่งระบายรถ คุมเข้มความปลอดภัย ป้องปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะสถานีขนส่ง


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ​ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากกำลังเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองปีใหม่ ทำให้การสัญจรในเส้นทางต่างๆ มีความหนาแน่นเป็นระยะ และคาดว่าจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ คสช.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปรับการจราจรให้สะดวกและทันต่อสภาพการใช้ถนน ทั้งในสายหลัก สายรอง และทางลัด เพื่อเร่งระบายการจราจรตามเส้นทางให้คล่องตัวที่สุด ควบคู่ไปกับการเข้มงวดมาตรการสร้างความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าดูแลตรวจสอบตามสถานีขนส่ง ซึ่งมีประชาชนมารอขึ้นรถเดินทางกลับ ให้มีความเรียบร้อยในทุกด้านอีกด้วย

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ ในวันที่ 2 มกราคม 2560 มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 13,060 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 480 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 7,887 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 9,378 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดใบขับขี่ไว้ 670 คน ยึดรถยนต์ 157 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 4,807 คน


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ตลอด 5 วันที่ผ่านมา (29 ธ.ค.59-2 ม.ค.60) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว จำนวน 3,618 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 2,507 คัน และรถยนต์ 1,111 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในส่วนรถจักรยานยนต์ 30,798 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 16,965 คน สำหรับจุดบริการประชาชนตามหน้าค่ายทหารและเส้นทางคมนาคมของกองทัพบก ยังมีประชาชนเข้าใช้บริการต่อเนื่อง 8,351 คน และมีผู้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง/แหล่งท่องเที่ยว และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของหน่วยทหาร จำนวน 13,763 ราย

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า เนื่องจากในเทศกาลปีใหม่นี้มีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มจำนวนจุดบริการ/จุดตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งมาตรการทางนิติศาสตร์และทางรัฐศาสตร์ เน้นการสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือ หรือการจัดส่งคนที่ดื่มกลับบ้าน หวังให้ประชาชนปลอดภัยเป็นสำคัญ สำหรับรถที่ควบคุมไว้ เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาอย่างเหมาะสม หากไม่มีเหตุด้านคดีความ ผู้เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ฝุ่นpm

เขตหนองแขม อ่วมฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง

คนกรุงเทพฯ อ่วม คุณภาพอากาศเช้านี้ ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ เขตหนองแขม และอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 69 พื้นที่