ยอด 7 วันเฝ้าระวังอันตรายปีใหม่ ยอดตายทะลุ 321 ราย

กทม.3 ม.ค. – วันที่ 7 ของช่วงเฝ้าระวังอันตราย ตายยังสูงทะลุ 321 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ด้านรองปลัด มท. ชี้ เป็นโจทย์ที่ต้องทำให้ไทยไร้อุบัติเหตุให้ได้


นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 และแถลงข้อมูลช่วง ​10 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 วันที่ 7 (2 ธค.) ว่า เกิดอุบัติเหตุ 196 ครั้ง ลดลงร้อยละ 2 มีผู้เสียชีวิต จำนวน 43 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และผู้บาดเจ็บจำนวน 200 คน ลดลงร้อยละ 2.44

  • จังหวัดเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตรัง 11 ครั้งรอง ลงมาได้แก่ สุราษฎร์ธานี 9 ครั้ง และนราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี สตูล และสุพรรณบุรี 7 ครั้ง
  • จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ สุราษฎร์ธานี 8 ราย รองลงมาได้แก่ ปราจีนบุรี 4 รายและพิษณุโลกและอุทัยธานี 3 ราย
  • จังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุดคือ ตรังและลำปาง 11 คน รองลงมาได้แก่สุราษฎร์ธานี 9 คนและนราธิวาส 8 คน

สาเหตุของอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นมากที่สุดมีมูลเหตุสันนิษฐานจากการขับรถเร็ว เกินกว่ากฎหมายร้อยละ 40.31 ตัดหน้ากระชั้นชิดร้อยละ 26.02 ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.07


ช่วงเวลาที่เกิดเหตุสูงสุดคือ 09.01-12.00 น. ร้อยละ 19.39 พฤติกรรมเสี่ยงของผู้ประสบเหตุสูงสุดได้แก่ไม่มีอุปกรณ์นิรภัยร้อยละ 64.61 ประเภทถนนลักษณะจุดเกิดเหตุประเภทถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.90 ลักษณะถนนทางตรงร้อยละ 83.67
เพศชายประสบอุบัติเหตุสูงสุดที่ร้อยละ 65.84 ส่วนช่วงอายุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 22.23 และช่วงอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 17.70

ส่วนจำนวนอุบัติเหตุสะสมระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน มีจำนวนอุบัติเหตุสะสม 1,938 ครั้ง จำนวนผู้เสีย ชีวิต 321 ราย จำนวนผู้บาดเจ็บ 1,894 คน

  • จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี 72 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ภูเก็ต 58 ครั้ง และ ตรัง 56 ครั้ง
  • จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่สุราษฎร์ธานี 20 ราย รองลงมาได้แก่กรุงเทพมหานคร 18 ราย นนทบุรีและอุดรธานี 10 ราย
  • จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี 82 คน รองลงมาได้แก่ภูเก็ต 59 คนตรังและลำปาง 56 คน

นายเชษฐา กล่าวว่า​ ช่วงควบคุมเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ถึงวันนี้​สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังคงเป็นสาเหตุเดิมของทุกวัน ทุกปี​ คือ​การใช้ความเร็ว ​ตัดหน้ากระชั้นชิด ดื่มแล้วขับ และมอเตอร์ไซค์ยังเป็นพาหนะ ที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด​ จึงต้องเน้นย้ำเตือนให้ลดความเร็วในการขับขี่ สวมหมวกกันน็อค ไม่ดื่มแล้วขับ ทั้งนี้ ยังคงมาตรการในการตั้งจุดตรวจ​ด่านต่าง​ๆ​ ในการให้บริการผู้ขับขี่ เตือนการใช้ความเร็วและป้องปรามต่างๆ ทั้งนี้ มีผู้ที่ต้องเข้าควบคุมความประพฤติกว่า 900 คดี ได้ดำเนินคดีเมาสุรา ขับรถซิ่ง ขณะที่ หน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินทุกมาตรการแต่ อุบัติเหตุยังเกิดขึ้น จึงเป็นโจทย์ที่ตลอดทั้งปีนี้ จะต้องทำให้เกิดความปลอดภัย ให้เมืองไทยไร้อุบัติเหตุได้ต่อไป.-319​-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมงไทย

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกสำเร็จรูป อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนท.ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน