“อัจฉริยะ” รื้อคดี​แตงโมไม่สำเร็จ กมธ.กฎหมายฯ​ ชี้ไม่มีหลักฐานใหม่

รัฐสภา 8 ม.ค.-“อัจฉริยะ” รื้อคดี​แตงโมไม่สำเร็จ กมธ.กฎหมายฯ​ ชี้ไม่มีหลักฐานใหม่​ ห่วงก้าวก่ายอำนาจศาล​ โต้เดือด​หวิดวอล์กเอาท์​

การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายกมลศักดิ์​ ลีวาเมาะ​ เป็นประธาน​ มีวาระพิจารณาศึกษาแนวทางการดําเนินการทางกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม กรณีคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม กรณีหากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ หลังนายอัจฉริยะ​ เรืองรัตนพงษ์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการ โดยเชิญบุคคลและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล


นายอัจฉริยะได้พูดถึงข้อร้องเรียน ในช่วงแรกของการประชุมว่าได้ถูกอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกขึ้นไปเรียกไปพบ เมื่อปี 2565 ร่วมกับตำรวจชุดทำคดีแตงโม เพื่อขอไม่ให้ตนทำคดีแตงโม เนื่องจากต้องการให้ตนช่วยคนบนเรือคนหนึ่ง​ แต่ไม่ให้เพราะมองว่าเป็นการทำลายกระบวนการ ประกอบกับแตงโมเป็นดาราชื่อดัง มันไม่ใช่จะมาลงข้อหาประมาท​ และตามความเชี่ยวชาญของตนเห็นว่าคนที่ตกท้ายเรือ ไม่มีทางโดนใบพัดเรือได้​ ซึ่งได้เรียนอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปถึง ข้อสังเกตดังกล่าว แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะขอเนื่องจากคนตายไปแล้ว แต่ตนไม่ยอมจากนั้นจึงถูกยัดข้อหามาโดยตลอด รวม 6 คดี แต่ได้ใช้พยานหลักฐานที่ได้พูดคุย จน ศาลอาญายกฟ้อง

นายอัจฉริยะ ยังยืนยันว่าการเก็บพยานหลักฐานในคดีแตงโมมีข้อพิรุธหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเก็บเส้นผม จากนั้นนายอัจฉริยะ​ได้เปิดภาพเส้นผมบาดแผล แสดงต่อกรรมาธิการ เพื่อตอกย้ำว่าแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือน่าจะเกิดจากของมีคม​ และทันทีที่​นายอัจฉริยะ​ เปิดผลทางนิติเวช​ เพื่อบอกว่า​ ศพของแตงโมไม่มีบาดแผลอื่นนอกจากแผลที่ขาขวา​


ทำให้นายอุดมวิทย์​ อริยสุนทร​ รองอธิบดีอัยการภาค 1 ยกมือทักท้วงว่า ประธานในที่ประชุม แจ้งแล้วว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่หลักฐานที่กำลังเปิด อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล จากนั้นนายอัจฉริยะ ได้อธิบายต่อ ว่าข้อพิรุธในคดีนี้ ยังมีการแก้ไข GPS ของคนบนเรือ ที่ตำรวจแสดงหลักฐานเท็จในงานแถลงข่าว 26 เมษายน 2565 และยังมีการทำหลักฐานเท็จอีกหลายชิ้น จากนั้นประธานในที่ประชุมได้สรุปว่าการหยิบยกเรื่องแตงโม มาหารือในวันนี้เพราะต้องการรู้ว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ที่จะนำไปสู่การรื้อคดีได้หรือไม่ และหากนำไปสู่การรื้อคดีได้ จะต้องเดินหน้าไปฟ้องหรือส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานใด

ทำให้นายประยุทธ์​ ศิริพานิช​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยโต้แย้งว่า การที่นายอัจฉริยะ กล่าวหาบุคคลอื่น ว่าผิดแล้วทุจริต ไม่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการพิจารณาเรื่องนี้ได้ มันไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการอยากรู้ สิ่งที่ต้องการคือมีพยานหลักฐานใหม่อย่างไร นอกเหนือจากนอกเหนือจากสิ่งที่เขากำลังดำเนินการอยู่ แต่ถ้านายอัจฉริยะออกมากล่าวหาเช่นนี้ การประชุมต่อไปก็จะเกิดปัญหา คนในที่ประชุมก็จะไม่ได้อะไร ทำงานต่อไปไม่ได้

ทำให้นายกมลศักดิ์​ ย้ำกับนายอัจฉริยะให้พูดข้อเท็จจริง ซึ่งนายอัจฉริยะก็ได้ย้ำอีกครั้งว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง และมีการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลอาญาไปแล้ว และตนมองว่าคำร้อง ของอัยการในคดีแตงโม มีแต่พฤติการณ์และความประมาทของคนบนเรือแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของบาดแผล ที่ไม่ได้เกิดขึ้น จากใบพัดเรือ ทำไมตำรวจไม่ทำเรื่องนี้ให้ครบถ้วน เมื่อขอให้มีการตรวจเรือใหม่ก็ไม่ยินยอม​ หากโปร่งใสจริงต้องยินยอม และตนสงสัยว่าเหตุใดถึงตั้งข้อหาคนบนเรือว่าร่วมกันประมาท เพราะมันไม่เคยมีในกฎหมายอาญา


นายสุทัศน์​ เงินหมื่น​ ที่ปรึกษากรรมาธิการ ตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการว่า ไม่ควรพิจารณาเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี​ มิฉะนั้นอาจจะถูกตรวจสอบหรือร้องเรียนได้ในภายหลัง ดังนั้น​ วันนี้​ กมธ.ของเรา​ ควรจะ ฟังความคิดเห็นของผู้ร้อง แต่ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถูกร้อง มาชี้แจง เพราะอาจจะนำไปสู่ประเด็นการฟ้องร้องในภายหลัง และไม่ควรที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ว่าใครผิดใครถูก ประธานในที่ประชุมจึงกล่าวย้ำกับนายอัจฉริยะว่า ขอให้พูดแต่ข้อเท็จจริง และไม่ควรทำให้เสียรูปคดี ส่วนผู้ชี้แจงหากเห็นว่ามีผลต่อรูปคดีก็ไม่ต้องชี้แจง

ทำให้นายอัจฉริยะแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับกล่าวว่าตนโดนฟ้อง 5 คดี ยังไม่ได้พิพากษา การที่ตำรวจรับฟังฝ่ายเดียวโดยไม่ชี้แจงเหตุผล ตนว่าไม่แฟร์ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะขอ Walk Out ออกจากห้องประชุม ทำให้พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย​ กาญจนริทร์​ แพทย์ผู้ส่งคุณวุฒิด้านนิติเวชศาสตร์ และประธานในที่ประชุมได้ห้ามไว้ ขอให้เราฟังข้อมูลจากฝ่ายผู้มาชี้แจงก่อน

นายอุดมวิทย์​ ได้ชี้แจงว่าคดีนี้ พวกตนไม่เกี่ยวข้อง และวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการสอบพยานปากสุดท้าย และพิจารณาตัดสินคดีนี้แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะพูดกับนายอัจฉริยะคือ ในคดีหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ขออย่าเพิ่งหลุดประเด็น แม้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องแล้ว แต่ถ้าเกิดการอุทธรณ์ แล้วศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา​ อย่าลืมคดีนี้​ มันสามารถสู้ถึงศาลฎีกาได้​

ผู้สื่อข่าวรายงานบ้านหลังเปิดให้สื่อมวลชนสังเกตการณ์และฟังการประชุมระยะหนึ่งได้เชิญสื่อมวลชนออก และประชุมต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายกมลศักดิ์จะแถลงว่า เนื่องจากคดีของดาราสาวแตงโมอยู่ในการพิจารณาของศาล กรรมาธิการไม่มีอำนาจไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม การสืบพยาน จึงพยายามสอบถามว่าพยานหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีคืออะไร ซึ่งนายอัจฉริยะได้หยิบยกสำนวนคดีที่ถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท มาอ้างอิง ขณะที่ พันเอกนายแพทย์ธวัชชัย ได้แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อชี้ให้เห็นถึงพิรุธ ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากใบพัดเรือ แต่หลักฐานที่นำมาเปิดเผยต่อที่ประชุมส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่เคยเปิดเผยที่อื่นมาแล้วและเป็นข่าวไปแล้วไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่มาเปิดที่นี่เป็นครั้งแรก ซึ่งนายอัจฉริยะจึงได้ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดนนทบุรีอัยการภาคหนึ่ง และอัยการสูงสุด เพื่อขอแก้ไขคำฟ้องก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำวินิจฉัย โดยรองอัยการภาคหนึ่งได้แจ้งต่อที่ประชุมกรรมาธิการว่า หนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของอัยการ หากเห็นว่าหลักฐานที่ส่งมาไม่ปรากฏอยู่ในสำนวน สมควรที่จะแก้ไขคำร้อง ก็สามารถแก้ไขคำฟ้องได้

ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ ยังได้ส่งหนังสือไปถึงกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทราบว่าในวันที่ 16 มกราคมนี้ จะมีการจำลองเหตุการณ์ และดีเอสไอจะไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

นายกมลศักดิ์ ยืนยันว่า คณะกรรมาธิการจะไม่ไปก้าวล่วง สำนวนคดีการประมาท ที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี แต่หลังจากนี้จะติดตามว่าพยานหลักฐานใหม่จะดำเนินการอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]