รัฐบาลมั่นใจ “ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยกระตุ้นท่องเที่ยว

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- รัฐบาลมั่นใจ “ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ตั้งเป้าเศรษฐกิจกระจายรายได้กว่า 15,500 ล้านบาท


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยเยียวยาผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางข้ามจังหวัด ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงไปในท้องถิ่นและชุมชน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับแพ็กเกจเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ที่มีระยะเวลาการเดินทางอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และข้ามจังหวัด โดยสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านบริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จุดประกายการเดินทางในประเทศ เพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ บริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 12,500 ล้านบาท เกิดการกระจายรายได้จากโครงการทัวร์เที่ยวไทยในทางอ้อมอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ซึ่งกำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ต้องให้ความยินยอม (consent) สมัครบัญชีถุงเงิน ณ สาขา ธ.กรุงไทย ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ททท. และกรมการท่องเที่ยวจะตรวจสอบความถูกต้อง นำเสนอรายการนำเที่ยว (แบ่งประเภท รูปแบบการให้บริการ ราคาและเงื่อนไขการเดินทาง โดยมีคณะทำงานตรวจสอบคุณภาพและความคุ้มค่า รายการนำเที่ยวปรากฏบนเว็บไซต์ต้องแสดงรายละเอียด (ชื่อ รร./ร้านอาหาร) หลังผ่านการอนุมัติจากคณะทำงาน


สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องให้ความยินยอม (consent) ติดตั้งแอปฯ “เป๋าตัง” เลือกรายการนำเที่ยวทางเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ติดต่อบริษัทนำเที่ยว ชำระค่ารายการนำเที่ยว ร้อยละ 60 แก่บริษัทนำเที่ยว เดินทางท่องเที่ยวโดยมีการสแกนใบหน้าและ QR Code เพื่อยืนยันตัวตน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า การที่ไทยได้รับการจัดอันดับจาก Global COVID-19 Index (GCI) เป็นอันดับ 1ของโลกในการฟื้นตัวของจากสถานการณ์ของโรค COVID-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก และติด 1 ใน 5 ประเทศที่บรรเทาการระบาดของไวรัสได้ก้าวหน้าที่สุด รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เริ่มต้นแล้วและเป็นไปตามเป้าหมาย แสดงถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขของไทย ประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้ มาตรการ “ทัวร์เที่ยวไทย” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่ ทั้งโรงแรม ผู้ประกอบ และแรงงานภาคการท่องเที่ยว กว่า 4.3 ล้านคน กลับมาคึกคักอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง