มองเศรษฐกิจไทยปี 2560


กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-ก้าวเข้าสู่ปี 2560 จะมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างสดใสหรือไม่ และอะไรจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในภาวะที่ปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ติดตามจากรายงานของทีมข่าวเศรษฐกิจสำนักข่าวไทย

4-1-2560 20-36-47 4-1-2560 20-37-29


หลังจากปี 2559 ผ่านพ้นไป โดยมีปัจจัยลบรอบด้านเข้ามารุมเร้าเศรษฐกิจไทย แต่รัฐบาลก็ยังประคองให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 3.2 และเมื่อมองข้ามมาถึงปี 2560 ก็ยังมีคำถามตามมาอีกไม่น้อยว่า เศรษฐกิจไทยถึงเวลาจะเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพได้แล้วหรือไม่ ซึ่งบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2560 หนึ่งหน่วยงานหลักก็คือ กระทรวงการคลัง

4-1-2560 20-37-39 4-1-2560 20-37-52

จากการคาดการณ์ของหน่วยงานทั้งของภาครัฐและเอกชน เห็นตรงกันว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2560 จะอยู่ในอัตราใกล้เคียงกัน คือ ประมาณร้อยละ 3-3.5 โดยแรงขับเคลื่อนที่สำคัญคือ การใช้จ่ายของภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งรัฐบาลมีโครงการที่อยู่ในแผนก่อสร้างแล้วเป็นจำนวนมาก โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ที่มีกว่า 2.73 ล้านล้านบาท ทั้ง ก.คลัง และ ก.คมนาคม 2 กระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจได้รับงบประมาณมากเป็นอันดับ 3 และ 5


4-1-2560 20-38-39 4-1-2560 20-39-15

เมื่อบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2560 คือ การใช้จ่าย การลงทุนของภาครัฐ หน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินอย่างกระทรวงการคลัง จึงเป็นหน่วยงานหลักที่จะต้องรีดประสิทธิภาพของงบประมาณออกมาอย่างเต็มที่ ทั้งการเบิกจ่าย การลงทุน

ในภาพรวมของการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่จะเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2560 เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจะออกสู่ตลาด ผ่านการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคมากมายหลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านคมนาคม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยืนยันว่า พร้อมจะขับเคลื่อนโครงการอย่างเต็มที่

4-1-2560 20-39-27 4-1-2560 20-39-39

แผนการลงทุนด้านคมนาคมในปี 2560 มีเกือบ 900,000 ล้านบาท ทั้งระบบราง ระบบรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง และทางด่วนพิเศษ รวมทั้งหมด 56 โครงการ โดยมีหลายโครงการที่เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2559 และหากคำนวณเป็นเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปกติ จะมีวงเงินประมาณ140,000 ล้านบาท

แต่หากเรามองภาพกว้างมากขึ้นกว่าเดิมว่า ปี 2560 จะมีอะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไทยควรต้องระวังบ้าง ก็จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นปัจจัยต่างประเทศที่จะเข้ามาสร้างความผันผวนและฉุดยอดส่งออก ซึ่งเป็นรายได้หลักของไทย

4-1-2560 20-39-53 4-1-2560 20-40-21

สำหรับปัจจัยบวกที่เชื่อว่า จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2560 ดีกว่าปีที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่แล้ว การบริโภคของประชาชนทั่วไปก็น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ปี 2559 มีปัจจัยลบที่เข้ามาทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนไม่คึกคักเหมือนปีก่อนหน้านี้

ถ้ารัฐบาลสามารถผลักดันการลงทุนได้ตามเป้าหมาย และเอกชนเดินหน้าลงทุนด้วยความเชื่อมั่น ขณะที่ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายตามปกติที่ควรจะเป็น โอกาสที่เศรษฐกิจไทยปี 2560 จะโตได้ตามศักยภาพคือ ร้อยละ 4-5 ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง