ญี่ปุ่นจะยกเลิกภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวตามกำหนด

โตเกียว 18 มี.ค. – นายยาสุฮิสะ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น กล่าววันนี้ว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นในเรื่องมาตรการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ความเห็นชอบเมื่อวานนี้ที่จะปล่อยให้ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวหมดอายุลงไปตามกำหนดในวันที่ 21 มีนาคม


นายนิชิมูระ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการรับมือกับโควิด-19 ของรัฐบาลกล่าวหลังประชุมกับคณะกรรมการที่ปรึกษาว่า ทางคณะกรรมการที่ปรึกษาไม่ได้มีข้อคัดค้านใด ๆ ในการไม่ต่ออายุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมามีการขยับเพิ่มขึ้นที่ละเล็กละน้อยและการกลับมาระบาดอีกครั้งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นายนิชิมูระ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้แน่ใจว่า การกลับมาระบาดจะไม่รุนแรง ทางรัฐบาลขอให้ประชาชนยังคงเฝ้าระมัดระวังเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส คณะกรรมการเฉพาะกิจของรัฐบาลจะประชุมกันในวันนี้ เพื่อเตรียมการชั้นสุดท้ายของแผนการ และนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ จะเปิดแถลงข่าวในเวลา 19.00 น. หรือ ตรงกับเวลา 17.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

กรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดที่อยู่ติดกันคือ คานากาวะ ชิบะ และไซตามะ อยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม นายยูจิ คุโรอิวะ ผู้ว่าการจังหวัดคานากาวะกล่าวว่า หลักจากยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ทั้ง 4 จังหวัดจะขอให้ร้านอาหารปิดบริการในเวลา 21.00 น. อย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการระบาดอีกครั้ง


นายกรัฐมนตรีซูงะ เสนอแผนที่จะไม่ต่ออายุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่า จำนวนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลเริ่มดีขึ้นทั้งในกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดใกล้เคียง ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ลดลงจากช่วงที่เกิดการระบาดสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในกรุงโตเกียวยังคงห่างจากตัวเลขเป้าหมายของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ที่ต้องการจะเห็นตัวเลขเฉลี่ย 7 วัน อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยของสัปดาห์ก่อนหน้า ในวันนี้ กรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 409 ราย เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ที่ 2,520 ราย แต่ก็ยังสูงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก