กรุงเทพฯ 9 มี.ค.-สำนักงาน ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายบ่อนการพนันของ “หลงจู๊-เสี่ยโป้” รวมมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้ดำเนินการเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เครือข่ายบ่อนการพนันรายใหญ่ จำนวน 2 บ่อน ได้แก่ บ่อนการพนัน ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง และบ่อนการพนัน RJ (อาร์เจ) (หลัง บขส.) อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง รายนายหลงจู๊ หรือนายสมชาย จุติกิติ์เดชา กับพวกและรายนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ นางสาวบานเย็น ชาญนรา (มารดาของเสี่ยโป้) กับพวก โดยเป็นการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดมูลฐาน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว รวมทั้งสิ้นจำนวน 430 รายการ เช่น เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 1,200 ล้านบาท พร้อมดอกผล ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 และคณะกรรมการธุรกรรม พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินตามที่เสนอ และเมื่อสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว จะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
นอกจากนี้ สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์มากกว่า 100 ราย ในการนี้ เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป ภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้น ต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไขด้วยกฎหมายฟอกเงิน”
ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1710 อนึ่ง สำนักงาน ปปง. จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณหน้าห้องประชุม 101 ชั้นล่าง สำนักงาน ปปง.-สำนักข่าวไทย