ปปง. รู้ชัดเส้นเงิน “ดิไอคอน” จ่อชงอายัดทรัพย์ลอตใหญ่เพิ่ม

รัฐสภา 30 ต.ค.- กมธ.ปปง. เผย ปปง. รู้ชัดเส้นทางการเงิน ดิไอคอน ครบหมดแล้ว เตรียมให้ คกก.ธุรกรรมพิจารณาอายัดทรัพย์ลอตใหญ่เพิ่ม บอกต้องทำควบคู่คดีอาญา ประชุมครั้งหน้าเชิญ สคบ.-ดีเอสไอ ให้ข้อมูล แยกแม่ข่ายกับผู้เสียหายอย่างไร เพื่อเอาผิดตัวการหลักให้ได้


นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงผลการประชุมพิจารณาคดี ดิไอคอน นัดแรก ว่า เราได้มีการเชิญกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) , ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) และตัวแทนผู้เสียหาย มาให้ข้อมูลกับทางกรรมาธิการ

โดยในส่วนของปปง. เราได้ติดตามในเรื่องของการยึดอายัดทรัพย์ เบื่องต้นมีการยึดอายัดทรัพย์แล้ว 4 ครั้ง เป็นเงินทั้งหมด 240 ล้านบาท ครั้งแรกที่มีการยึดอายัดใช้อำนาจของเลขาฯ ปปง.ตามกฎหมาย และหลังจากที่มีความชัดเจนในคดีอาญาทางคณะกรรมการธุรกรรมก็จะมีการประชุมกันอีกครั้งและจะมีการยึดอายัดเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้ ปปง.ได้มีการชี้แจงชัดเจนว่า เส้นทางการเงินทราบหมดแล้วว่าเงินไปทางไหนบ้าง ของใครบ้าง โยกย้ายถ่ายเงินออกไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ข้อสำคัญคือถ้าหากโยกย้ายถ่ายเงินออกจากบัญชีอีกก็จะเข้าข่ายการฟอกเงิน


ส่วนตำรวจ ปคบ.ขณะนี้ มีการโอนคดีไปที่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว ดีเอสไอก็สามารถใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ช่วยทำงานได้ ลำพังดีเอสไอเองก็คงไม่มีเจ้าหน้าที่จำนวนเพียงพอที่จะดูแลคดีที่มีจำนวนมากขนาดนี้

ทั้งนี้ คดีดีไอคอนขณะนี้มี 2 ส่วนคือ คดีอาญาดำเนินไปโดยดีเอสไอและอีกส่วนคือ ปปง.ผู้เสียหายจะต้องมาทำเรื่องขึ้นทะเบียนคุ้มครองสิทธิ์ โดยทาง ปปง.จะแจ้งประกาศอีกครั้ง หลังจากคดีอาญามีความชัดเจน และ ปปง.มีจำนวนการยึดอายัดที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะแยกกันกับคดีอาญา ดังนั้น ประชาชนผู้เสียหายที่แจ้งความดำเนินคดีไว้ ไม่ใช่ว่าจะได้รับการเยียวยาโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องมาขึ้นทะเบียนกับ ปปง.อีกครั้ง

ส่วนผู้เสียหายที่เป็นทั้งแม่ข่าย และถูกบอสพอลแจ้งความว่าเป็นผู้กระทำความผิดด้วย รวมทั้งผู้เสียหายทั่วไปที่มาสมัครเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ไม่สามารถขายของได้ วันนี้ก็ได้มาให้ข้อมูล ตนก็ได้ย้ำไปแล้วว่าอย่าเพิ่งกังวลจนเกินไป สำหรับผู้ที่เป็นแม่ข่าย บางคนเป็นแม่ข่าย แต่ถอนตัวออกไป 2 ปีแล้ว แต่กลับถูกดำเนินคดี อย่าเพิ่งกังวลไป ต้องรอดูดีเอสไอว่า จะให้คำนิยามของผู้ที่จะเป็นผู้ต้องหา หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าอย่างไร เพราะการเป็นสมาชิกมีหลายชั้น และขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่าใครจะเป็นผู้เสียหาย แต่อีกส่วนหนึ่งก็จะถูกกันไว้เป็นพยานเพื่อจะเอาผิดกับผู้ที่เป็นตัวหลักให้ได้


นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวว่า ปปง.ได้ชี้แจง ว่า มีการเตรียมการที่จะขายทรัพย์สินบางอย่าง หรือมีการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เป็นเหตุให้ปปง.เห็นความเคลื่อนไหวนี้ เลขาฯปปง.จึงใช้อำนาจตามกฎหมาย ยึดอายัดทรัพย์ไว้ก่อน 130 ล้านบาทตามข่าว ก่อนที่จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการธุรกรรม แต่ตอนนี้ปปง.เห็นเส้นทางทางการเงินทั้งหมดแล้ว ซึ่งก่อนที่จะมีเรื่องมีราวขึ้นมาผู้บริหารบางคนก็ได้มีการโยกย้ายถ่ายโอนไว้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนสบายใจได้ วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ครั้งต่อไปจะเชิญ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และดีเอสไอมาชี้แจง เพราะมีประเด็นในเรื่องที่สคบ.เคยทำหนังสือถึงสำนักงานตำรงจแห่งชาติ เมื่อปี 2561 แต่ทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ นี่คือสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป

ทั้งนี้ ขณะนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องฉ้อโกงและพ.ร.บ.คอมฯ แต่เรื่องความผิดทางพ.ร.บ.ขายตรง ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เพราะ สคบ.ยังไม่แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้มายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะสคบ.เป็นผู้รับผิดชอบกฎหมายนี้โดยตรง ถ้าหากแสดงความเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะผิดพ.ร.บ.ขายตรงหรือการตลาดแบบตรง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็ต้องรอความเห็นจาก สคบ.เช่นเดียวกัน ดังนั้นความชัดเจนจะมีมากขึ้นในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น วันที่ 13 พ.ย. 67

นายเลิศศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ข้อสรุปที่ตนอยากได้ คือสรุปแล้วทางดีเอสไอจะกำหนดให้ผู้ที่เป็นผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาคือใครบ้าง ในบรรดาข่ายเครือข่ายของดิไอคอนทั้งหมด เพราะมีหลายชั้น ชั้นระดับไหนถึงจะเป็นผู้เสียหาย ฉะนั้นดีเอสไอจะกำหนดหลักเกณฑ์ว่าอย่างไร หรือจะกันใครไว้เป็นพยาน เอาผิดใครได้บ้าง

ส่วนที่ทางสมาชิกวุฒิสภามีข้อกังวลว่า การนำเรื่องนี้ให้ดีเอสไอไปดำเนินการ จะแล้วเสร็จไม่ทันตามกรอบเวลา อาจทำให้คดีหมดอายุความนั้น นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีการติดตามจากประชาชน และยืนยันว่ากรรมาธิการชุดนี้จะติดตามตลอดจนถึงอัยการสั่งฟ้อง ผู้เสียหายได้รับการเยียวยา ถ้าหากการเชิญหน่วยงานมาชี้แจง 2-3 ครั้งจบ ก็จะตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาดำเนินการต่อ เพื่อให้ประชาชนและผู้เสียหายมาแลกเปลี่ยนข้อมูลต่อกันได้ และจะสะท้อนปัญหาให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี

ส่วนเส้นทางทางการเงินจะไปถึงนักการเมืองหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เรายังไม่รู้ว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เท่าที่สอบถาม ปปง. ยืนยันว่ารู้เส้นทางอยู่แล้ว ว่าเส้นเงินไปถึงใครบ้าง ไม่ต้องห่วงและสบายใจได้ในเรื่องนี้

ส่วนการจับกุมแม่ข่ายในรอบสองนั้น ตอนนี้ต้องเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปที่มีการเชิญดีเอสไอ ก็จะมีการเจาะประเด็นนี้ ในส่วนของกรรมาธิการก็จะเดินไปทีละขั้นตอน พร้อมยืนยัน วันนี้ปปง.ชัดเจน ว่าหลังจากที่ได้มีการยึดอายัดทรัพย์ครั้งใหญ่ต่อไป ก็จะอิงกับคดีอาญาไปด้วย ซึ่งทาง ปปง. ได้ยกคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ก็ได้ยึดอายัดทรัพย์ไว้เยอะ สุดท้ายศาลยกฟ้อง ปปง. ก็อาจจะโดนฟ้องกลับได้ ปปง.จึงต้องระมัดระวังในส่วนนี้ ดังนั้นหากคดีอาญาเดินทางไปถึงในจุดที่ คณะกรรมการธุรกรรมมั่นใจและสามารถยึดอาญาทรัพย์เพิ่มเติมได้ ก็จะดำเนินการ แต่ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะมีลอตใหญ่อีก.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค และการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน […]

กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง

กกต. 21 ก.ค.-กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งการลงคะแนนเลือก สว. ไม่พบหลักฐานได้รับแต่งตั้ง หลังมีมติยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.รวม 13 หน้า ที่มีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกมล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561มาตรา 77 (4) กรณีใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้มีผู้ร้อง น.ส.เกศกมล รวม 7 รายร้องใน 6 ประเด็น ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันว่า น.ส.เกศกมล สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 19 โดยระบุในข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย