ลอสแอนเจลิส 8 มี.ค.- เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์และเมแกน มาร์เคิล พระชายาเปิดใจเรื่องพระโอรสคนโตและพระทายาทในครรภ์ว่าเป็นพระธิดา โดยที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เผยว่า เคยคิดฆ่าตัวตายพราะถูกปฏิบัติไม่ดีหลังการเสกสมรส
ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เผยในการให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ที่สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสออกอากาศเทปเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า บริสุทธิ์ไร้เดียงสาก่อนเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์ในปี 2561 แต่กลายเป็นคนคิดอยากฆ่าตัวตายและอยากทำร้ายตัวเองเพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ แม้ร้องขอ ช่วงที่เธอตั้งครรภ์อาร์ชี ราชวงศ์ไม่ต้องการให้ทายาทของเธอมีพระยศ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ซึ่งจะทำให้ไม่ได้รับการอารักขา สิ่งนี้เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่เธอตั้งครรภ์ มาร์เคิลพระชันษา 39 ปี ซึ่งมีบิดาเป็นชาวอเมริกันยุโรปและมารดาเป็นชาวอเมริกันแอฟริกันเผยว่า ในวังมีการพูดเรื่องสีผิวของทายาทที่จะเกิดมาด้วย แต่ไม่ยอมตอบว่าใครพูดเรื่องนี้ และเมื่อถูกถามว่า เธอเป็นฝ่ายนิ่งเฉยเองหรือถูกขอให้นิ่ง เธอตอบว่าเป็นอย่างหลัง
ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กล่าวถึงคนในวังว่า ไม่เพียงไม่ปกป้องเธอที่ถูกให้ร้าย แต่ยังโกหกเพื่อปกป้องสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ในวังมีครอบครัวและมีคนที่บริหารสถาบัน เรื่องนี้ต้องแบ่งแยกให้ดี เพราะสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระกรุณาธิคุณกับเธออยู่เสมอ ส่วนข่าวหนังสือพิมพ์ที่ว่าเธอทำให้เคท พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ร้องไห้ก่อนพิธีเสกสมรสของเธอในปี 2561 มาร์เคิลปฏิเสธว่าไม่จริง ข่าวนี้เป็นจุดที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสื่อเปลี่ยนไป และว่าเรื่องจริงเป็นคนละเรื่อง เคทไม่พอใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่กี่วันก่อนงาน และคนที่ร้องไห้คือเธอ เพราะถูกทำร้ายความรู้สึก
ด้านเจ้าชายแฮร์รี่เผยว่า พระทายาทในครรภ์พระชายาเป็นเพศหญิง พร้อมกับเผยเรื่องความสัมพันธ์กับเจ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารและพระบิดาว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะพระบิดาทรงเคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันมาก่อน ทรงรู้ถึงความเจ็บปวด พระองค์จะยังคงรักพระบิดาเสมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเจ็บปวดมากมาย พระองค์คงไม่ถอยออกมาจากราชวงศ์หากพระชายาไม่ถูกกระทำ ทรงถูกตัดความช่วยเหลือทางการเงิน แต่ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะสิ่งที่พระมารดาทิ้งไว้ให้.-สำนักข่าวไทย