กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุผลสำรวจความเห็นของประชาชนถึงการใช้จ่ายในช่วงวันมาฆบูชาพบว่า ปีนี้เงินสะพัดติดลบร้อยละ 9.38 เจอปัญหาโควิดเป็นหลัก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนี ทัศนคติ พฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันมาฆบูชา ปี2564 ที่ปีนี้พบว่า มีเงินสะพัดรวม 2,357 ล้านบาท ติดลบร้อยละ 9.38 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี หรือตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากในปีนี้ ประชาชนยังกังวลการระบาดของโควิด-19 รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีนัก โดยประชาชนส่วนใหญ่ มีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวแต่ที่ไม่มีแผนเดินทางไปทำบุญและทำกิจกรรมวันมาฆบูชา ทำให้งความคึกคักของกิจกรรมวันมาฆบูชาปีนี้น้อยลงกว่าในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ผลสำรวจ ทัศนคติต่อมาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ พบว่า ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ต่างๆของภาครัฐทั้ง ผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกันเราชนะ และ ม.33เรารักกัน ส่วนใหญ่ พอใจมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากเป็นโครงการที่ได้รับเป็นตัวเงินและสามารถเพิ่มรายได้และเมื่อประเมินผลจาก 3 โครงการหลัก ประกอบด้วย เราชนะ,คนละครึ่งและม.33 เรารักกัน จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ร้อยละ 1.76 จากมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 1.5 และในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวได้ร้อยละ 4.5 และคาดว่า ทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 2.8-3.0 และเมื่อมีการกระจายวัคซีนทั่วโลก การท่องเที่ยวสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ภายใต้มาตรการต่างๆ เปิดรับนักท่องเที่ยวได้ 6 ล้านคน เศรษฐกิจอาจขยายตัวได้ร้อยละ 3.0-3.5 เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย