ร้อยเอ็ด 22 ก.พ.- ทำวุ่นทั้งหอพัก ผัวเมียหลอนหาว่ามีคนแอบเปิดดูอยู่บนฝ้าเพดานห้องพัก เดือดร้อนเจ้าของหอต้องมาพิสูจน์ ย้ำเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นฝ้าแขวนคนขึ้นไปไม่ได้
ที่หอพักไม่มีชื่อ เลขที่ 42 ใกล้วงเวียน 5 แยกสายน้ำผึ้ง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เมื่อหนุ่มสาวผัวเมียที่พักอยู่ในห้องหนึ่งในหอพัก โวยวายกับเพื่อนข้างห้องว่าขณะที่นอนอยู่ในห้อง แล้วมองขึ้นไปที่ฝ้าเพดานในห้องน้ำ พบคล้ายมีคนดึงฝ้าเพดานขึ้น และรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนแอบดูตนเองอยู่บนฝ้าเพดาน จึงพาเพื่อนๆ ข้างห้องเข้ามาดู แต่ก็พบว่าผ้าเพดานอยู่ในสภาพปกติดี แต่เมื่อเพื่อนออกจากห้องไปได้ไม่นาน สองผัวเมียคู่นี้ก็เอะอะโวยวายขึ้นมาอีกว่ามีคนแอบยกฝ้าเพดานขึ้นอีก จนวุ่นวายกันไปทั้งหอ และถามอย่างไร ทั้งผัวเมีย ก็ยืนยันว่ามีการเปิดฝ้าเพดานขึ้น และเชื่อว่ามีคนอยู่ข้างบน ต้องการให้เจ้าของหอพักมาพิสูจน์ เพราะเชื่อว่าจะต้องมีคนแอบอยู่บนฝ้าเพดาน และแอบดูทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายบรรดาข้างห้องทนไม่ไหว เรียกเจ้าของห้องเช่ามาพบ พร้อมกับยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนไปอยู่บนฝ้าเพดาน เนื่องจากทุกห้องเป็นฝ้าเพดานแขวน ที่รับน้ำหนักคนไม่ได้ เพราะหากมีคนหลบซ่อนอยู่ข้างบน ก็จะพังลงมา ถ้าจะเป็นไปได้อาจจะเป็นแมวเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีอะไรเข้ามา และสงสัยว่าผัวเมียคู่นี้ ซึ่งทำงานที่ร้านเนื้อย่าง อาจนอนไม่พอแล้วตาลาย จึงเกิดอาการหลอนตัวเอง
แต่ทางฝั่งผัวเมียคู่ดังกล่าวก็ยืนยันว่ามีคนมาดึงฝ้าเพดานขึ้นไปหลายครั้ง พอตนทักท้วงก็วางลง สักพักก็ดึงขึ้นอีก พวกตนจึงเชื่อว่าต้องมีคนอยู่ข้างบน และไม่เชื่อว่าจะเป็นแมวหรือเป็นผี แต่มั่นใจว่าเป็นคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่แมว เพราะแมวคงดึงฝ้าเพดานเปิดขึ้นไปไม่ได้ ต้องการให้เจ้าของหอและเพื่อนข้างห้องขึ้นไปพิสูจน์และตรวจสอบ ว่ามีคนอยู่ข้างบนหรือไม่เพื่อความสบายใจ
ในที่สุดเจ้าของหอก็ต้องไปหาบันได ให้คนขึ้นไปใช้ไฟฉายส่องดูแล้วไม่พบอะไร และไม่มีช่องที่จะให้คนปีนขึ้นไป หรือปีนมาจากห้องอื่นได้ เพราะปิดทุกด้านแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่เชื่อ และขอให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปดูด้วย เพื่อความชัดเจน พร้อมกับถ่ายภาพลงมาให้ดูด้วยว่าไม่มีอะไร นอกจากหยักไย่ใยแมงมุมเต็มไปหมด โดยไม่มีช่องให้คนลอดเข้ามาได้ และหากลอดเข้ามาได้ ก็ไม่สามารถอยู่ข้างบนได้เพราะเป็นผ้าแขวน สุดท้ายให้เจ้าตัวขึ้นไปดูก็ไม่พบอะไร แต่แม้จะไม่พบอะไร ก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าเห็นผ้าเพดานถูกยกขึ้น เหมือนมีคนมาแอบดูพวกตน โดยไม่ใช่อาการจิตหลอน เพราะนอนไม่พอ และจิตปกติดี
ขณะที่เพื่อนข้างห้องบอกว่า ก่อนหน้าที่จะเรียกเจ้าของหอมาตรวจสอบ ก็แจ้งตำรวจมาดูครั้งหนึ่งแล้ว ตำรวจมาก็ไม่พบอะไรแต่พอตำรวจกลับไป ทั้งคู่ก็บอกว่าเห็นอีก แล้วก็แจ้งตำรวจไปอีก แต่ตำรวจไม่มาก็เลยโวยวายกับเพื่อนข้างห้องว่ามีคนแอบดู จนทุกคนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะเป็นเจ้าที่เจ้าทางก็ไม่เชื่อ แม้ในหอจะมีศาลเจ้าที่แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีอะไร และจะเป็นอะไรก็ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ทั้งคู่เกิดจิตหลอน แต่ไม่เข้าใจว่าทั้งคู่ไปทำอะไรมา จึงเป็นเหตุทำให้เกิดจิตหลอนหลอกตัวเองขึ้นมาได้ทั้ง 2 คน ในเวลาเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย