หนองคาย 25 ต.ค. – ชาว อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ยืนยันลูกไฟคืนวันออกพรรษา เป็นบั้งไฟพญานาคของจริง เห็นมาตั้งแต่เด็กจนแก่ เสียใจถูกมองว่าเป็นการยิงปืน หากมียิงปืนจริงให้พิสูจน์ให้แน่ชัด
ชาวบ้านบ้านท่าม่วง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จุดที่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นนับร้อยลูกอย่างต่อเนื่องทุกปี ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงบั้งไฟพญานาคในมิติที่ชาวบ้านพบโดยตรง
นางลำดวน ชาวท่าม่วง ชี้ให้ดูจุดที่พบบั้งไฟพญานาค บริเวณแม่น้ำโขง หน้าบ้านของตัวเอง พร้อมยืนยันว่าเคยเห็นลูกไฟที่พุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขงมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้อายุ 50 ปีแล้วก็ยังเห็นทุกปี แม้ว่าจำนวนจะลดน้อยลงไปบ้าง ชาวริมน้ำโขงเชื่อว่าเป็นบั้งไฟพญานาคที่เกิดจากพญานาคในแม่น้ำโขง เมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนมาดู มีเพียงชาวบ้านที่ออกมาดูกันในวันออกพรรษา เมื่อมีคนต้องการพิสูจน์และบอกว่าเป็นฝีมือการยิงปืนขึ้นฟ้า ก็อยากให้พิสูจน์จนได้ผลที่แน่ชัดจะได้ไม่มีการกล่าวหาว่าชาวบ้านโกหกหลอกลวงกัน และให้กลายเป็นตำนานกล่าวขานกันไปเลย ทั้งนี้ ฝั่งตรงข้ามกับบ้านท่าม่วง ในฝั่งลาว จะเป็นบ้านห้วยสายพาย แขวงบอลิคำไซ ถัดไปเป็นบ้านหนองเขียด และหลังจากเลยคุ้งน้ำไปแล้วจะไม่มีหมู่บ้าน เป็นโขดหินริมน้ำโขง
ด้านนางกุหลาบ และนางพุด ชาวบ้านท่าม่วง กล่าวว่า เห็นข่าวการพิสูจน์บั้งไฟพญานาคแล้ว ลูกไฟที่พบนั้นไม่ใช่บั้งไฟพญานาคที่ชาวบ้านเคยเห็น บั้งไฟพญานาคของจริงจะมีลอยขึ้นมาจากแม่น้ำโขง ไม่แค่นั้น ตามหนองน้ำหรือแม้กระทั่งปลักควายก็มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น รู้สึกเสียใจที่ได้ยินว่าเป็นการยิงปืนเกิดขึ้น เชื่อว่าคนที่พูดเช่นนั้นไม่เข้าใจและไม่เคยสัมผัสกับบั้งไฟพญานาคเหมือนเช่นชาวบ้านริมน้ำโขงได้สัมผัสและพบเห็นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า เหมือนเป็นการลบหลู่ด้วยเช่นกัน
ขณะที่นางพรม อายุ 68 ปี เคยมีสามีเป็นชาวลาวและไปใช้ชีวิตที่บ้านห้วยสายพาย แขวงบอลิคำไซ บอกว่า ชาวลาวเองก็ดูบั้งไฟพญานาคและเชื่อว่าเป็นบั้งไฟพญานาคเช่นกัน แต่การดูจะไม่คึกคักเหมือนฝั่งไทย บั้งไฟพญานาคจะไม่ขึ้นสูงมากนัก แต่ปืนหรือพลุที่ยิงขึ้นฟ้าจะมีความสูงกว่าต้นไม้.-สำนักข่าวไทย