รมว.แรงงาน สั่งช่วยลูกเรือประมงประสบเหตุล่มกลางอ่าวไทย

เพชรบุรี 21 ก.พ.-“สุชาติ” รมว.แรงงาน มอบที่ปรึกษาฯ ลงพื้นที่เพชรบุรีติดตามช่วยเหลือลูกจ้างกรณีเรือล่มกลางอ่าวไทยที่ อ.ชะอำ ให้ได้สิทธิคุ้มครองตามกฎหมายเร่งด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเพื่อติดตามสถานการณ์ เยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือลูกจ้างกรณีเกิดเหตุเรือล่มกลางอ่าวไทย ซึ่งห่างจากชายฝั่ง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานเร่งลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างในด้านค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกจ้างไม่ได้เข้าทำงาน และสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมาย เบื้องต้นช่วยเหลือได้ 5 คน เสียชีวิต 2 คน อีก 2 คนอยู่ระหว่างการค้นหา


เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเพื่อติดตามสถานการณ์ เยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือลูกจ้างกรณีเกิดเหตุเรือล่มกลางอ่าวไทย ซึ่งห่างจากชายฝั่ง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประมาณ 30 กิโลเมตร ณ บริเวณวัดเนรัญชรา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้ ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ดิฉันลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ เยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มในครั้งนี้ ซึ่ง รมว.แรงงาน ได้ฝากความห่วงใยมายังลูกจ้างทุกคนและกำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรีเข้าไปตรวจสอบดูแลสาเหตุเรือล่มในครั้งนี้ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดบูรณาการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างในด้านค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกจ้างไม่ได้เข้าทำงาน กำชับให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดเพชรบุรีตรวจสอบสถานะของแรงงานเมียนมาทั้ง 7 คน ว่าเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรีตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้างเพื่อช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมาย

นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรี พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันนี้ (20 ก.พ.64) เวลาประมาณ 11.45 น.เกิดเหตุเรือล่มกลางอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่ง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประมาณ 17 ไมล์ทะเล หรือ 30 กิโลเมตร เป็นเรือประมงขนาด 28 ตันกรอส ทราบชื่อ คือ เรือ ก.โชคชัยสมบูรณ์ 1 มี น.ส.วราลี สุนธรธงชัย อยู่บ้านเลขที่ 70/10 ถนนเจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เป็นเจ้าของเรือ และมีลูกเรือทั้งหมด 9 คน เป็นคนไทย 2 คน เมียนมา 7 คน ช่วยเหลือได้แล้ว 5 คน เสียชีวิต 2 ราย ที่เหลืออีก 2 คนกำลังอยู่ระหว่างการค้นหา ขณะนี้ทีมกู้ภัยตั้งกองอำนวยการกู้ภัย บริเวณวัดเนรัญชรา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในส่วนของกระทรวงแรงงาน จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรี พบว่า เรือลำดังกล่าวได้เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และเป็นเรือขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ซึ่งไม่ต้องผ่านการแจ้งเข้าออกจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (PIPO) และเรือได้มาเกิดอุบัติเหตุล่มในเขตพื้นที่ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ขณะนี้กำลังรอติดตามรายละเอียดจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล เพื่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเพชรบุรี จะได้ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างในด้านค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกจ้างไม่ได้เข้าทำงาน นอกจากนี้ สำนักงานจัดหางานจังหวัดเพชรบุรียังได้ตรวจสอบสถานะของแรงงานต่างด้าวเมียนมาทั้ง 7 คน พบว่า เป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเพชรบุรี จะประสานไปยังสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาครเพื่อตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตน เนื่องจากนายจ้างได้ขึ้นทะเบียนกองทุนเงินทดแทนให้ลูกจ้างแล้ว กับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ กรณีลูกจ้างสูญหายหรือเสียชีวิตทายาทจะได้รับค่าทำศพเป็นเงิน 40,000 บาท และได้รับเงินชดเชยร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นเวลา 10 ปี โดยสำนักงานประกันสังคมสมุทรสาครจะประสานแจ้งญาติผู้สูญหายและเสียชีวิตทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ทดแทนดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง