กทม. 31 ม.ค. -เช็กเลย! ก่อนคลายล็อก พรุ่งนี้ 1 ก.พ. ด้านผู้ว่าฯ กทม. ลงนามสั่งปิด 7 สถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 18)
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การสั่งปิด 7 สถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 18) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564
7 สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ประกอบด้วย
1.สถานบริการ, สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะc2.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
3.สนามชนโค สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษระทำนองเดียวกัน
4.สถานประกอบการกิจการอาบน้ำ
5.สถานประกอบการกิจการอาบอบนวด
6.สถานรับเลี้ยงเด็ก เฉพาะที่อยู่ในเขตบางขุนเทียน บางแค บางพลัด จอมทอง ธนบุรี
7.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน เฉพาะที่อยู่ในเขตบางขุนเทียน บางแค บางพลัด จอมทอง ธนบุรี.
ผ่อนคลายกิจการ 37 ประเภท
มาตรการผ่อนคลายให้กิจการ 37 ประเภท แต่ต้องมีมาตรการควบคุมโรคตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ
ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม นั่งทานในร้านได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม งดดื่มสุราในร้าน
ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ภัตตาคาร สวนอาหารศูนย์อาหาร โรงอาหาร ไม่รวมสถานบริการ ผับ บาร์
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์
ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุมจำกัดร่วมกิจกรรมไม่เกิน 100 คน
สถานที่ให้บริการจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง จำกัดผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 100 คน งดดื่มสุรา และงดแสดงดนตรีที่มีการเต้นรำ
ร้านค้าปลีก ตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่
สนามแข่งขันทุกประเภท แข่งได้ไม่มีผู้ชม สนามมวย แข่งขันได้ไม่มีผู้ชม
การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น ประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง แจกอาหารหรือสิ่งของ จำกัดจำนวนไม่เกิน 100 คน เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยหน่วยงานรัฐ ใช้แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ และหมอชนะก่อนและหลังร่วมกิจกรรม
*** ถ้าไม่มีคำสั่งปิด คือให้เปิดได้ ***
เฉพาะในเขต กทม. กิจการร้านค้าใดที่ต้องปิดต่อ หรือเปิดได้แล้ว จากคำสั่งเดิมที่ กทม.สั่งปิดตั้งแต่ 1 ม.ค.64 และยังไม่ได้รับการผ่อนคลายเมื่อ 22 ม.ค.
สถานที่ที่สามารถเปิดได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย
•สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสําหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
• โรงเรียนสถาบันกวดวิชา และสถาบันการศึกษาทุกประเภท
•สวนน้ำ สวนสนุก
•สนามม้า สนามมวย (ต้องไม่มีคนดู)
ที่ต้องปิดต่อ คือ ผับ บาร์ สถานบันเทิง หรือสถานบริการ และสถานประกอบการใดที่เปิดลักษณะคล้ายสถานบริการ
•สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ สนามชนโค ปลากัด รวมถึงสนามแข่งขันอื่น ในลักษณะทํานองเดียวกัน
•สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด
ส่วนสถานรับเลี้ยงเด็ก ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืน เป็นปกติธุระ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ปิดต่อเฉพาะเขต ได้แก่ เขตบางขุนเทียน บางแค บางพลัด จอมทอง ธนบุรี
ขณะที่โต๊ะสนุก บิลเลียด ที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งปิด ไม่ถูกระบุในประกาศฉบับที่ 18
หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและอาจถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
ปรับพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโควิดใหม่ มีผล 1 ก.พ.
ศบค.ประกาศปรับโซนพื้นที่เขตควบคุมใหม่ “สีแดง” จาก 28 จังหวัด เหลือ 5 จังหวัด “แดงเข้ม” เหลือ “สมุทรสาคร” จังหวัดสีเขียวที่ใช้ชีวิตเกือบปกติ แต่ยังคงมาตรการเฝ้าระวัง 35 จังหวัด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
แยกเป็น “สีแดงเข้ม” พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังคงมีเพียง 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร
โดยสถานที่ที่ยังคงจำเป็นต้องปิดต่อเนื่องคือ
•สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ
•สนามมวย สนามชนวัน ชนไก่ สนามพระเครื่อง ฟิตเนส กิจการอาบอบนวด สปา นวดแผนไทย
•โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา
•สนามเด็กเล่น สวนสนุก ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต
•การประชุมงานเลี้ยง
•กิจกรรมประเพณีที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก การจัดงานแสดงสินค้า สถานีขนส่งสาธารณะ
ส่วนพื้นที่ที่เปิดได้ แบบมีเงื่อนไข คือ
•ตลาด ตลาดนัด จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
•ร้านอาหาร ไม่เกิน 21.00 น. งดดื่มสุราในร้าน
•ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดไม่เกิน 21.00 น.
•โรงแรม มีมาตรการป้องกัน มีระบบติดตามตัวผู้เดินทางเข้าออกทุกคน
“สีแดง” พื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ รายละเอียดการผ่อนคลายมาตรการตามที่ กทม.ประกาศล่าสุด 37 กิจการ และยังคงปิด 7 สถานที่ ส่วนจังหวัดปริมณฑลยังคงใช้มาตรการคล้ายกรุงเทพฯ แล้วแต่ แต่ละจังหวัดจะกำหนดมาตรการแตกต่างกันไป
“สีเหลือง” พื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัด กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร นครราชสีมา นครสวรรค์ นราธิวาส บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบูรณ์ ยะลา ระนอง สงขลา สุโขทัย สุราษฎร์ธานี อุทัยธานี
โดยพื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัด อนุญาตให้ เปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ จำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุรา ไม่เกิน 24.00 น.
•ร้านอาหาร นั่งรับประทานได้ จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ
•จำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราไม่เกิน 24.00 น.
•สถานบริการอาบอบนวดเปิดให้บริการได้ จำกัดการใช้บริการ
•สถานที่ออกกำลังกายการแจ้งในอาคาร ยิม ฟิตเนส สนามมวยแข่งขันได้ มีผู้ชมตามเกณฑ์
7.(กราฟิกพื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด)
ส่วนสีสมพื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สิงห์บุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐม ปราจีนบุรี เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี ลพบุรีสมุทรสงคราม สระแก้ว สระบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา อ่างทอง
อันนี้ค่อนข้างผ่อนปรนเยอะ โดยที่ให้เปิดได้แบบมีเงื่อนไข เช่น
•สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ นั่งทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. แต่จำกัดเวลาจำหน่ายและดื่มสุราได้ไม่เกิน 23.00 น. แสดงดนตรีได้ งดเต้นรำ
•ร้านอาหาร นั่งทานได้ จำกัดเวลาขายและดื่มสุราได้ ไม่เกิน 23.00 น.
•สถานบริการ อาบอบนวด เปิดบริการได้ แต่จำกัดผู้ใช้บริการ
•การประชุม สัมนา จัดเลี้ยง จำนวนไม่เกิน 300 คน แสดงดนตรีได้ งดเต้นรำ
•สถานที่ออกกำลังกายในอาคาร ยิม ฟิตเนต สนามมวย แข่งขันได้ มีผู้ชมตามเกณฑ์ที่กำหนด
9.(กราฟิกพื้นที่เฝ้าระวัง 35 จังหวัด)
35 จังหวัดสุดท้ายที่เป็นพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี
ทั้งหมดมีรายละเอียดไม่มาก ใช้ชีวิตเกือบจะปกติ แต่ยังเน้นคงมาตรการเฝ้าระวังต่อเนื่อง คือ
•เปิดสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ จำหน่ายและดื่มสุราในร้าน จำกัดเวลาตามกฎหมายกำหนด แสดงดนตรีและเต้นรำได้ เน้นการเว้นระยะห่าง
•สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ในอาคาร ยิม ฟิตเนส สนามมวย แข่งขันได้ มีผู้ชมตามเกณฑ์. – สำนักข่าวไทย