ผนึกกำลังเร่งพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้นักศึกษา

29 ม.ค. – สภาดิจิทัลฯ ผนึกกำลัง สสอท. ร่วมลงนาม MOU เร่งเครื่องพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษากว่า 200,000 คนทั่วประเทศ พร้อมจับมือกับสถานประกอบการร่วมเป็นฐานแพลตฟอร์มสำคัญเปิดโอกาสให้นักศึกษาเรียนรู้ได้จากประสบการณ์จริง ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์พัฒนาคนรองรับตลาดแรงงานยุค 4.0 เสริมแกร่งให้ประเทศไทยเข้าสู่ Digital Economy อย่างมีประสิทธิภาพ


ดร.พรชัย มงคลวนิช นายกสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม (MOU) ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสภาดิจิทัลฯ และ สสอท. เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนด้านดิจิทัล และยกระดับความรู้ด้านดิจิทัล Upskill และ Reskill ให้กับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด สสอท.ทั่วประเทศกว่า 200,000 คน ทั้งในระดับประกาศนียบัตร และปริญญา ครอบคลุมมหาวิทยาลัย 41 สถาบัน วิทยาลัย 17 สถาบัน และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เพื่อรองรับตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนไปนำไปสู่ความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยในอนาคต

ดร.พรชัย มงคลวนิช นายกสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือกับสภาดิจิทัลฯ ครั้งนี้ ถือเป็นการเชื่อมโยงภาคการศึกษากับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีสมรรถนะและศักยภาพสูงขึ้นที่ตอบสนองความต้องการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และแข่งขันได้ในประชาคมโลกได้ในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล การร่วมมือกับสภาดิจิทัลฯ จะช่วยให้เกิดการยกระดับบัณฑิตไทยให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในด้านดิจิทัล และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 สอดคล้องกับความมุ่งหวังของ สสอท.ที่จะผลิตบัณฑิตรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและมีทักษะด้านดิจิทัลออกสู่ตลาดแรงงานในปัจจุบัน


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในการลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ของสภาดิจิทัลฯ ในฐานะองค์กรสำคัญที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน รัฐบาล และภาคประชาชน ที่มุ่งเน้นการ “พัฒนาคน” โดยต้องการส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาให้มีมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการพัฒนาด้าน “เศรษฐกิจดิจิทัล” หรือ Digital Economy ให้กับประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายพันธกิจของสภาดิจิทัลฯที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

“ความร่วมมือระหว่างสภาดิจิทัลฯ กับ สสอท.ครั้งนี้ ตั้งเป้าหมายการพัฒนานิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษากว่า 200,000 คน จะเสริมสร้างศักยภาพให้ประเทศมหาศาล โดยเฉพาะการสร้างงานสร้างโอกาสในภาวะเศรษฐกิจยุคโควิด ที่นักศึกษาจบใหม่ต้องประสบปัญหาการว่างงานจำนวนมาก หากมีทักษะด้านดิจิทัล จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามลำดับ เพราะทิศทางเศรษฐกิจนับจากนี้ จะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง และจะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าน้ำมันต่อไปในอนาคต”ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าว

ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านดิจิทัลในสาขาที่สอดคล้องกับแรงงานตลาด มาร่วมเป็นอาจารย์ในการเรียนการสอน รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของ สสอท. คณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญในสถานประกอบการ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จากสภาดิจิทัลฯ ที่จะช่วยกันประเมินผลสัมฤทธิ์ในการจัดการการศึกษา โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จริง รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัย พัฒนานวัตกรรมและแพลทฟอร์มใหม่ๆ ในการเรียนการสอนที่สภาดิจิทัลฯได้พัฒนาขึ้นมา ตลอดจนความร่วมมืออื่นๆ ที่ทั้งสององค์กรให้ความเห็นชอบร่วมกันในอนาคตอีกด้วย ขณะเดียวกันในอนาคตข้างหน้าสภาดิจิทัลฯ จะเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยภาครัฐต่อไปอีกด้วยเพื่อให้เกิดการผลักดันยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้คนรุ่นใหม่ในทุกภาคส่วนเพื่อช่วยยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยต่อไป


ขอบเขตความร่วมมือมี 4 ด้าน สำคัญ คือ 1. ร่วมสร้างกำลังคนที่มีศักยภาพสูงและมีความรู้ ความสามารถด้านการใช้ระบบสารสนเทศดิจิทัล มีคุณลักษณะและสมรรถนะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม 2.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างบุคลากรของสถาบันสมาชิกของสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย 3. เพื่อให้สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย บูรณาการความร่วมมือในการจัดการการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ในสถาบันกับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการต่าง ๆ 4. เพื่อร่วมกันสร้างดิจิทัล Platform เพื่อรองรับการจ้างงานของบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล และการพัฒนาขีดความสามารถด้านดิจิทัลในลักษณะ Reskill/Upskill ที่จัดขึ้นโดยสถาบันการศึกษา สมาคม และหน่วยงานอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ให้สามารถต่อยอดเพื่อการพัฒนา Platform การเรียนรู้ร่วมกันในอนาคต. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง