รวบสาวแสบ หลอกลงทุนซื้อคอนโดเก็งกำไร สูญเงิน 65 ล้าน

กทม.25 ธ.ค.- กองปราบ รวบสาวแสบ หลอกลงทุนซื้อขาย คอนโด ห้องชุด กว่า 129 ห้อง หวังเก็งกำไร ท้ายสุด ถูกหลอก มีผู้เสียหาย สูญเงิน 65 ล้านบาท อ้างนำเงินไป เล่นพนันออนไลน์


ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองปราบปราม นำกำลังเข้า จับกุม น.ส.วีรญา(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” หลังมี พฤติการณ์ เมื่อ ปี 2553 ต่อเนื่อง ปี 2556 ผู้ต้องหาประกอบอาชีพเป็นโบรกเกอร์ ได้ชักชวนกลุ่มผู้เสียหาย 17 คน ร่วมลงทุน ในโครงการคอนโด หรืออาคารชุดพักอาศัย โดยอ้างว่า เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ดูแล รับจ้างดูแลโครงการคอนโดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีโควตาซื้อขายห้องพักบริษัทฯ ทุกโครงการ จำนวน 250 ยูนิต จึงชักชวนผู้เสียหายมาลงทุนทำสัญญาซื้อขายเพื่อเก็งกำไร โดยเฉลี่ยจะได้กำไรห้องละ 100,000 บาท มีคนหลงเชื่อร่วมลงทุน ทั้งหมด 11 โครงการ โดยจะต้องจ่ายเงินลงทุนให้ผู้ต้องหาห้องละ 497,300 บาท ในการลงทุนช่วงแรก มีผลกำไรจากการลงทุนจริง จึงยิ่งทำให้กลุ่มผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ ลงทุนซื้อขายเพิ่มกว่า 129 ห้อง รวมเป็นเงิน 65,000,000 บาท แต่หลังจากที่ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มไป ผู้ต้องหากลับไม่จ่ายเงินตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ เมื่อผู้เสียหายติดตามทวงถามก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งผู้ต้องหารับสารภาพกับผู้เสียหายว่าไม่ได้เอาเงินไปลงทุนที่ใดเลย แต่เอาเงินของผู้เสียหายมาจ่ายเป็นผลกำไรตามที่กล่าวอ้าง กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจกองปราบปราม เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหาย กว่า 65 ล้านบาท

กระทั่งวันที่ 25 มกราคม เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีกบดานอยู่พื้นที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.วีรญาฯ ตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะฉ้อโกงหลายคดี หลายท้องที่ หลากหลายวิธีการ คือ เมื่อปี 2558 ผู้ต้องหาซึ่งอ้างตัวเป็นผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ได้เสนอแผนการขยายบริษัทฯ ไปยังต่างประเทศให้กับทางบริษัทฯ ผู้เสียหาย โดยได้ขอเบิกเงินจำนวน 14,912148 บาท กับทางบริษัทฯ ผู้เสียหาย เพื่อไปก่อตั้งสถานที่ให้บริการหรือการเซอร์วิสลูกค้า ต่อมาเมื่อต้นปี 2560 บริษัทฯ ผู้เสียหายได้สอบถามความคืบหน้า กลับถูกผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยง จึงทำการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทตามที่กล่าวอ้าง จากนั้น จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ 339/2560 ลง 18 ธ.ค.2560 ใน ข้อหา ฉ้อโกง (หมายจับต้องการตัว) เมื่อปี 2561 ผู้ต้องหาได้หลอกหลวงให้ผู้เสียหายที่เป็นเพื่อนสนิทไปร่วมลงทุนซื้อนาฬิกาหรู (Patek Philippe) จากต่างประเทศเพื่อมาขายเก็งกำไร แต่ปรากฏภายหลังว่าไม่มีการซื้อขายลงทุนจริง มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000,000 บาท โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 156/2561 ลง 21 มี.ค.61 ข้อหา ฉ้อโกง (หมายจับต้องการตัว) สอบถาม น.ส.วีรญาฯ ผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าเงินที่ได้ส่วนใหญ่หมดไปกับการพนันออนไลน์ ทั้งนี้ผู้เสียหาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก.2 บก.ป. โทรศัพท์ 080-0063763 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง