ราชบุรี 24 ม.ค.-พ่อค้าหนุ่มราชบุรี ลองไปร่อนทองในคลองชลประทาน หลังฟังจากคนขับสิบล้อ พบเศษทองจริง ร้านทองยืนยันเป็นทองบริสุทธิ์ ก่อนไปร่อนอีกครั้งพบจี้ทองคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรภัทร พรของแม่ หรือบี อายุ 33 ปี อาชีพครูรับสอนพิเศษตามบ้าน และพ่อค้าขายของในตลาดนัดที่ราชบุรี เผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายของตลาดนัด เรียนจบปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์การท่องเที่ยว จาก ม.เซนจอห์น และมารับจ้างสอนหนังสือให้กับเด็กอนุบาลถึงชั้นประถม แต่เจอพิษโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถไปสอนหนังสือตามบ้านได้ ทำให้ว่างงานจึงได้ออกมาหาปลาตามคลองชลประทาน และเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาได้มีคนขับรถบรรทุก 10 ล้อพ่วง ได้มาคุยกับตนว่า คลองนี้มีทอง ก่อนหน้านี้ได้มาร่อนแล้วเจอไปจำนวนหนึ่งและได้ไปขายได้เงินมาใช้ ซึ่งตนเองก็ยังไม่เชื่อ ได้กลับไปนอนคิดและได้ไปหาอุปกรณ์ ลักษณะเป็นถาดไม้มาลองร่อนดูปรากฏว่าเจอเศษชิ้นเป็นทองคำจริงจำนวน 1 ชิ้น จึงเชื่อว่ามีทองอยู่จริง
จนเมื่อวันที่ 17 มกราคม ลองนำทองไปให้ที่ร้านทองในตลาดเทศบาลเมืองราชบุรี ตรวจสอบดู ด้วยการนำไปขูดกับหินสีดำ และหยดน้ำกรดสารเคมี ซึ่งทางร้านทองได้บอกกับตนเองว่าเป็นทองจริง เป็นทองนพคุณ หรือทองที่มากกว่า 96.5% หรือเป็นทองบริสุทธิ์จากธรรมชาติ จากนั้นได้ไปซื้อกระชอนตาถี่มาทำการร่อนหาอีกครั้ง จนพบกับเศษทองเพิ่มในจุดเดียวกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม ได้มาลงร่อนอีกครั้งในจังหวะที่กำลังจะนำหินที่อยู่ในลำธาร ปรากฏว่าพบจี้ลักษณะคล้ายทองคำเป็นรูปกระต่าย จึงเก็บมาล้างทำความสะอาดแล้วใช้กล้องส่องพระส่องดูพบมีเลขรหัส 999 และมีตราคล้ายกับของร้านทอง จึงมั่นใจว่าเป็นจี้ทองคำอย่างแน่นอน จึงเก็บรักษาไว้ จากนั้นได้นำชิ้นทองคำที่พบถ่ายภาพและนำไปโพสต์ในโลกโซเชียล เพื่อต้องการถามผู้รู้ว่าพบทองคำในคลองชลประทานจริง
ต่อมาผู้สื่อข่าว ไปสอบถามกับทางร้านทอง ช.โชคดีเยาวราช ตั้งอยู่ในตลาดศรีเมืองราชบุรี เพื่อนำเศษชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นทองคำดังกล่าว ไปตรวจสอบว่าเป็นทองคำแท้หรือไม่ ซึ่งทางคุณณัฐวัฒน์ ศรีสังวร วัย 47 ปี เจ้าของร้านทอง ช.โชคดีเยาวราช นำเศษชิ้นส่วนทองที่นายกรภัทร ผู้ที่ร่อนทองได้ มาทำการตรวจสอบด้วยการใช้กล้องส่องพระทำการส่องรายละเอียด และนำไฟเผาเพื่อหลอมดูสิ่งปะปน จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งแปลกปลอมปะปนอยู่ ซึ่งเป็นทองคำจริง โดยชิ้นแรกเป็นจี้ทองคำรูปกระต่าย น้ำหนัก 1.9 กรัม หากตีเป็นเงินมูลค่าของทองคำ ณ ปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ 3,115 บาท หรือ 3,200 บาท ส่วนเศษชิ้นส่วนทองที่ร่อนได้นั้นยังไม่สามารถชั่งน้ำหนักได้ เพราะน้ำหนักเบามากต้องได้จำนวนมากกว่านี้ แต่จากการเท่าที่ตรวจสอบแล้วเป็นทองคำแท้จริง แต่จะเป็นทองคำกี่เปอร์เซ็นต์นั้นยังตอบไม่ได้ เพราะต้องนำมาหลอมตรวจสอบดูจึงจะบอกได้ว่ากี่เปอร์เซ็นต์ จากการมองด้วยสายตาน่าจะเป็นทองคำเปอร์เซ็นต์สูง
ส่วนบรรยากาศที่คลองชลประทานที่นายกรภัทร พรของแม่ ไปร่อนเจอทองนั้น ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาลองร่อนทองดู แต่ก็ยังไม่พบชิ้นส่วนหรือเศษทองคำดังกล่าว อย่างคุณบุญ พรหมพิทักษ์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในตำบลดอนตะโก อยู่ห่างจากที่พบทองในคลองชลประทาน 500 เมตร เล่าให้ฟังว่า ตนได้ทราบข่าวจากในโซเชียลจึงเดินทางมาดู และลองนำกระชอนมาร่อนเพื่อหาทองคำดังกล่าวตามที่หนุ่มคนที่เจอทองดู แต่ก็ยังร่อนไม่เจอ จะกลับไปหาอุปกรณ์เพิ่มเพื่อที่จะมาร่อนอีกครั้ง ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา 20 กว่าปี ก็ไม่เคยทราบข่าว วันนี้มาทราบว่าในคลองชลประทานแห่งนี้มีทอง จึงประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง
ขณะที่นายกรภัทร ได้นำเครื่องสแกนตรวจจับโลหะ พร้อมด้วยกระชอนร่อนทองมาทำการร่อนและสาธิตการร่อนทองให้ผู้สื่อข่าวดูว่าได้ร่อนจนพบทองคำจริง ซึ่งนายกรภัทร ได้ใช้เครื่องสแกนตรวจจับโลหะ เดินไล่สแกนดูพบมีสัญญาณการแจ้งเตือนในหลายๆ จุด แต่เนื่องจากน้ำในคลองชลประทานเยอะ และอุปกรณ์ยังไม่พร้อมจึงยังร่อนตรงบริเวณกลางคลองจุดที่พบทองก่อนหน้านี้ไม่ได้ โดยหลังจากนี้จะไปซื้อตะแกรงร่อนขนาดใหญ่เพิ่มเติมเพื่อจะมาร่อนหาทองคำอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีอยู่อีกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย