ปั๊มรัฐย้ำไม่ขึ้นราคาน้ำมัน ส่งเสริมท่องเที่ยวปีใหม่

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค.-บางจาก- พีทีทีสเตชั่น ไม่ขึ้นราคาน้ำมันช่วงปีใหม่  บางจากฯ ย้ำสถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรง สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ด้าน ททท.มั่นใจ มาตรการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกันกระตุ้นการท่องเที่ยว คาดปี 64 เม็ดเงินหมุนเวียน 1.2 ล้านล้านบาท


บริษัทน้ำมันที่รัฐถือหุ้น ทั้งบางจากคอร์ปอเรชั่น และสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ประกาศไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกทุกชนิด ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดย พีทีทีเสตชั่นจะไม่ขึ้นตลอด 9 วันตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.  – 3 ม.ค ส่วน บางจากฯ ไม่ขึ้น 10 เริ่มตั้งแต่ 25 ธันวาคมถึง 3 มกราคม และทั้ง 2 ค่าย พร้อมจะปรับราคาลง หากราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง     เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสบายใจ หลังจากที่ปีนี้ ประชาชนได้รับผลกระทบจาก โควิด-19  

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งคนละครึ่งที่มีผู้ใช้สิทธิ์ 15 ล้านคน และโครงการขายสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน มีส่วนช่วยให้เกิดการใช้จ่ายในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆด้วย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรณีวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวจะคึกคัก เช่นวันหยุด 4 วัน ระหว่างวันที่ 10-13 ธันวาคม พบมีนักท่องเที่ยวออกเดินทางมากขึ้นกว่า  3 ล้านคนครั้ง และมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยประมาณ 12,600 ล้านบาท


ทั้งนี้ โควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวปีนี้หดตัว มีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 7.5 แสนล้านบาท ส่วนการท่องเที่ยวปี 2564 ททท. เชื่อว่าจะดีขึ้น เนื่องจากมีข่าวดีของการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จึงตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยวในประเทศปีหน้า จะอยู่ที่ 120 ล้านคนครั้ง และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 10 ล้านคน มีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท

“การท่องเที่ยวของไทยในปี 2563  หดตัวเพราะโควิด-19 เช่นเดียวกับสถานการณ์โลก โดยปี63 คนไทยเที่ยวไทยประมาณ 100 ล้านคนครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน มีเม็ดเงินหมุนเวียนประมาณ 7.5 แสนล้านบาท สอดคล้องกับการประเมินการท่องเที่ยวโลกโดยองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ประเมินตัวเลขการท่องเที่ยวทั่วโลกเติบโตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 70-80 ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บางจากฯ ไม่ปรับขึ้นราคา 25 ธันวาคม 2563 – 3 มกราคม 2564 รวม 10 วัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสบายใจ หลังจากที่ปีนี้ ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19  


“ตลอดปี โดยในช่วงปีใหม่ 2564 ที่จะถึงนี้ บางจากฯ จะไม่ขึ้นราคาน้ำมันเป็นเวลา 10 วัน และพร้อมจะปรับราคาลง หากราคาน้ำมันโลกลดลง พร้อมดูแลสุขอนามัย ความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ตลอดจนมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบางจากตลอดช่วงเทศกาล” นายชัยวัฒน์ กล่าว

 นายชัยวัฒน์  กล่าวด้วยว่า การผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ และภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ซึ่งบางจากฯ พร้อมที่จะรับมือการฟื้นตัว ด้วยสถานะทางการเงินที่มั่นคงและสภาพคล่องสูง และยังวางแผนเติบโตต่อเนื่องผ่านธุรกิจหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสีเขียวและธุรกิจพลังงานชีวภาพ โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้มูลค่า 8,000 ล้านบาท และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากสถาบันการเงินสำหรับวงเงินกู้ระยะยาวรวม 6,000 ล้านบาท

 สำหรับผลประกอบการของธุรกิจต่างๆ นั้น ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้มีการปรับตัวในหลายๆ ด้าน ทั้งการปรับกำลังการผลิตของโรงกลั่น การลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ และพร้อมจะเพิ่มกำลังการผลิตทันทีที่อุปสงค์กลับมา ในขณะที่ธุรกิจการตลาด เริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น จนทำให้ยอดขายหลังสถานการณ์โควิด-19 สูงกว่าช่วงก่อนหน้าสถานการณ์ดังกล่าว

ในส่วนของธุรกิจต้นน้ำหรือธุรกิจทรัพยากรธรรมชาตินั้น ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในบริษัทร่วม OKEA ที่นอร์เวย์มีสภาพคล่องสูงและกระแสเงินสดดี ในขณะที่ Lithium Americas Corp. (LAC) ซึ่งบริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ลิเทียมสามารถระดมทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อเร็วๆ นี้

“เรามีการปรับแผนธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา และเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงินของบริษัทให้สอดคล้องและรองรับกับแผนการเติบโตในอนาคต มั่นใจได้ว่า สถานะทางการเงินของบางจากฯ ยังมั่นคงแข็งแรง สามารถเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน” นายชัยวัฒน์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง