ททท.ประชาสัมพันธ์แคมเปญ “CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” ที่ จ.กระบี่

กระบี่ 21 พ.ย. – ททท.นำ “เชอรี่ เข็มอัปสร” ประชาสัมพันธ์แคมเปญ CF-Hot“CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” Krabi: A Sustainable Haven for Travelers ที่ จ.กระบี่


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำ “เชอรี่” เข็มอัปสร สิริสุขะ ประชาสัมพันธ์แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก ที่จังหวัดกระบี่ สวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างยั่งยืนสำหรับนักท่องเที่ยว Krabi: A Sustainable Haven for Travelers พบปะผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels จ.กระบี่ พันธมิตร และสื่อมวลชนกระบี่ พร้อมนำชม 2 ที่พักรักษ์โลกและรับผิดชอบต่อสังคม โรงแรม วารานา กระบี่ โรงแรม CF-Hotels ที่มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green) และโรงแรม ดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง สถานที่พักและจัดประชุมที่เป็นมิตรต่อที่สิ่งแวดล้อม ปิดท้ายด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนต้นแบบ หวังปลุกกระแสให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่หันมาท่องเที่ยวและเลือกพักที่โรงแรม CF-Hotels ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะโลกเดือดง่ายๆ “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว”

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึง แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว” ว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก CF-Hotels ตลอดจนสร้างกระแสความต้องการเดินทางท่องเที่ยวรักษ์โลกในกลุ่มนักท่องเที่ยว ให้มีการปรับพฤติกรรมเลือกใช้บริการสินค้าท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งในทริปนี้จะเน้นเรื่องการนำเสนออัตลักษณ์ของ จ.กระบี่ คือ “กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” ตีความออกมาให้สอดคล้องกับแคมเปญคือ Krabi : A Sustainable Haven for Travelers


นอกจากนี้ ททท.ได้ใช้โอกาสนี้ พบผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels พันธมิตร และสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อพูดคุยประเด็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวรักษ์โลกและการให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนให้ จ.กระบี่ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นสานต่อโครงการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint : CF) และส่งเสริมเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับตัวให้เท่าทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง ตามกรอบความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสหประชาชาติประจำประเทศไทย

“กระบี่ นับเป็นเมืองที่ภาครัฐและเอกชนมีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งและชัดเจน ดังจะเห็นได้จากการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) มาวางแผนการพัฒนาจังหวัดซึ่งสอดคล้องกับนโยบายยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Shape Supply) ของ ททท. ดังนั้น การจัดกิจกรรม Meet the Press ที่ จ.กระบี่ จึงเปรียบเสมือนการแสดงความมุ่งมั่นที่ต้องการสนับสนุน จ.กระบี่ ให้กลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้มีการคำนวณการปล่อยและลดก๊าซเรือนกระจกที่กลุ่มธุรกิจที่พักผ่านแพลตฟอร์ม CF-Hotels การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) ภายใต้โครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ของ ททท.”

ปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมที่เปิดบัญชีในแพลตฟอร์ม CF-Hotels แล้วมากกว่า 400 แห่ง และมีการทำกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 101,989 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


นางวิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมวารานา กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมขอบคุณ ททท. ที่เห็นความสำคัญกับวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของโรงแรมฯ แม้ว่า โรงแรมแห่งนี้เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา และความยั่งยืน เป็นโรงแรมรักษ์โลกแห่งแรกของจังหวัดกระบี่ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 9 ปี ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” โดยได้ส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ ด้วยแนวคิด Sustainability มาวางแผนการดำเนินงานเพื่อให้โรงแรมเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน แต่โรงแรมเป็นส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากสู่ธรรมชาติ โรงแรมวารานาฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโลก ต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้แขกที่มาพัก และสังคมโดยรอบ โดยนำนวัตกรรมการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน อาทิ การออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในในสไตล์เรียบหรู (Minimalist Luxury) เฟอร์นิเจอร์ พรมปูพื้นที่ถักทอด้วยเส้นใยที่ผลิตจากขวดน้ำดื่มพลาสติกใช้แล้ว โซฟาบุจากผ้าทอจากเส้นด้ายผลิตจากเศษผ้ารีไซเคิล โคมไฟทำจากไม้ไผ่ผลิตภัณฑ์ Amenity Kits ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน (Groundwater Banking) การบริหารจัดการน้ำครบวงจรเป็นแหล่งกักเก็บน้ำชั้นใต้ดินในชั้นหินอุ้มน้ำในช่วงหน้าฝน เพื่อนำกลับมาใช้ในยามที่ต้องการ มื้ออาหารเน้นการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชนในท้องถิ่น เน้นความสด สะอาด ปลอดสารเคมี มีแปลงผัก และสมุนไพรที่บุคลากรภายในโรงแรมช่วยกันปลูกและดูแล เป็นแปลงผักปลอดสารที่ใช้ปุ๋ยจากใบไม้แห้ง เศษวัชพืชและเศษอาหารที่ผ่านการคัดแยกมาหมักเป็นปุ๋ย เป็นการจัดการขยะแบบยั่งยืนและช่วยลดขยะอินทรีย์เข้าสู่ระบบขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ลดการใช้พลาสติก และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน รถไฟฟ้า เพื่อแทนการซื้อเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมีกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆเพื่อส่งต่อแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่แขกที่เข้ามาพัก

นายธีระศักดิ์ กาญจนจงกล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง หนึ่งในโรงแรม CF-Hotels ย่านอ่าวนาง จ.กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมดีวาน่าฯ เป็นโรงแรมสถานที่พัก และจัดประชุมระดับ 4 ดาว ที่มีความยืนยงมาถึง 13 ปีด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคงเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นทางภาคใต้กับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกนำมาใช้ในการออกแบบอาคาร ตัวอาคารมีความโปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดี และใช้แสงสว่างจากธรรมชาติในเวลากลางวัน ผนวกการให้ความสำคัญด้านการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง อาทิ การจัดการเรื่องเสียงโดยเฉพาะส่วนของห้องประชุม ที่มีการบริหารจัดการแบบรักษ์โลกลดการใช้ผ้า และการใช้ดอกไม้ตกแต่ง การจัดการด้านอากาศ ควบคุมไม่ให้มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ดูแลคุณภาพน้ำทิ้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่โดยนำมารดน้ำต้นไม้ภายในโรงแรม โดยไม่ปล่อยออกสู่ลำรางสาธารณะ การคัดแยกขยะ การจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว งดใช้พลาสติกหรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reduce Recuse Recycle) การลดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุด โดยคาดการณ์ว่า จะลดปริมาณได้ถึง 220,711.94 kWh หรือ 110.33 tonCO2e ต่อปี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 926,990 บาทต่อปี

นางสาวเข็มอัปสร สิริสุขะ หรือ เชอร์รี่ หนึ่งในศิลปินดาราที่หันมาใส่ใจและทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า 10 ปี กล่าวถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า “คนเรามักมองปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่แท้จริงแล้วปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ มันส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไป ถึงเวลาที่เราควรร่วมมือร่วมใจกันคนละเล็กละน้อยปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเชอรี่ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เลือกเชอร์รี่เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะช่วยกันผลักดันแคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก แค่เลือกพักก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว ชื่นชมผู้ประกอบการโรงแรมในกระบี่ ตลอดจนทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจอย่างดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม นับเป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง”

นางสาวกัสมาพร ลิปนพงศ์เทพ อุปนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา กระบี่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ 3.8 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 52,500 ล้านบาท มาจากจุดขายของกระบี่ คือ ความสวยงาม และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และตามวิสัยทัศน์ “KRABI GO GREEN” โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี BCG (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับโลก และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ผ่านกิจกรรมภายใต้การลงนามความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ KRABI CARBON NEUTRAL TOURISM 2040 เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสถานประกอบการภาครัฐและเอกชน 22 แห่ง และเครือข่ายระดับประเทศ 10 แห่ง และระดับจังหวัดอีก 12 แห่ง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงแรมได้รับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมแล้วกว่า 33 แห่ง ในสมาคมฯ มีโครงการ “ขยะโรงแรมกระบี่ไม่กำพร้า” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม โดยนำขยะโรงแรมที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ส่งต่อให้โรงงานนำไปแปรรูปเอาไปใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง (RDF) และอีกส่วนนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ในโรงแรม และเป็นของที่ระลึก โดยมีสมาชิกฯเข้าร่วมโครงการแล้ว 35 แห่ง

นางสาวสญาดา เบญจกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ หนึ่งในพันธมิตร กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการฯของ ททท. ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของสายการบินที่อุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเช่นกัน ได้แก่ การลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติการบิน กิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การลดสาเหตุของภาวะโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญโดย เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้ริเริ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนนี้ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 แม้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา และยังคงขีดความสามารถในการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น นอกจากนี้ยังดำเนินกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ และกองทุนฟลายกรีน สามารถติดตามได้ที่ www.vietjetair.com.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]