ททท.ประชาสัมพันธ์แคมเปญ “CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” ที่ จ.กระบี่

กระบี่ 21 พ.ย. – ททท.นำ “เชอรี่ เข็มอัปสร” ประชาสัมพันธ์แคมเปญ CF-Hot“CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” Krabi: A Sustainable Haven for Travelers ที่ จ.กระบี่


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำ “เชอรี่” เข็มอัปสร สิริสุขะ ประชาสัมพันธ์แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก ที่จังหวัดกระบี่ สวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างยั่งยืนสำหรับนักท่องเที่ยว Krabi: A Sustainable Haven for Travelers พบปะผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels จ.กระบี่ พันธมิตร และสื่อมวลชนกระบี่ พร้อมนำชม 2 ที่พักรักษ์โลกและรับผิดชอบต่อสังคม โรงแรม วารานา กระบี่ โรงแรม CF-Hotels ที่มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green) และโรงแรม ดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง สถานที่พักและจัดประชุมที่เป็นมิตรต่อที่สิ่งแวดล้อม ปิดท้ายด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนต้นแบบ หวังปลุกกระแสให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่หันมาท่องเที่ยวและเลือกพักที่โรงแรม CF-Hotels ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะโลกเดือดง่ายๆ “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว”

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึง แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว” ว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก CF-Hotels ตลอดจนสร้างกระแสความต้องการเดินทางท่องเที่ยวรักษ์โลกในกลุ่มนักท่องเที่ยว ให้มีการปรับพฤติกรรมเลือกใช้บริการสินค้าท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งในทริปนี้จะเน้นเรื่องการนำเสนออัตลักษณ์ของ จ.กระบี่ คือ “กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” ตีความออกมาให้สอดคล้องกับแคมเปญคือ Krabi : A Sustainable Haven for Travelers


นอกจากนี้ ททท.ได้ใช้โอกาสนี้ พบผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels พันธมิตร และสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อพูดคุยประเด็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวรักษ์โลกและการให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนให้ จ.กระบี่ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นสานต่อโครงการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint : CF) และส่งเสริมเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับตัวให้เท่าทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง ตามกรอบความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสหประชาชาติประจำประเทศไทย

“กระบี่ นับเป็นเมืองที่ภาครัฐและเอกชนมีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งและชัดเจน ดังจะเห็นได้จากการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) มาวางแผนการพัฒนาจังหวัดซึ่งสอดคล้องกับนโยบายยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Shape Supply) ของ ททท. ดังนั้น การจัดกิจกรรม Meet the Press ที่ จ.กระบี่ จึงเปรียบเสมือนการแสดงความมุ่งมั่นที่ต้องการสนับสนุน จ.กระบี่ ให้กลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้มีการคำนวณการปล่อยและลดก๊าซเรือนกระจกที่กลุ่มธุรกิจที่พักผ่านแพลตฟอร์ม CF-Hotels การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) ภายใต้โครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ของ ททท.”

ปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมที่เปิดบัญชีในแพลตฟอร์ม CF-Hotels แล้วมากกว่า 400 แห่ง และมีการทำกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 101,989 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


นางวิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมวารานา กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมขอบคุณ ททท. ที่เห็นความสำคัญกับวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของโรงแรมฯ แม้ว่า โรงแรมแห่งนี้เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา และความยั่งยืน เป็นโรงแรมรักษ์โลกแห่งแรกของจังหวัดกระบี่ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 9 ปี ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” โดยได้ส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ ด้วยแนวคิด Sustainability มาวางแผนการดำเนินงานเพื่อให้โรงแรมเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน แต่โรงแรมเป็นส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากสู่ธรรมชาติ โรงแรมวารานาฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโลก ต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้แขกที่มาพัก และสังคมโดยรอบ โดยนำนวัตกรรมการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน อาทิ การออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในในสไตล์เรียบหรู (Minimalist Luxury) เฟอร์นิเจอร์ พรมปูพื้นที่ถักทอด้วยเส้นใยที่ผลิตจากขวดน้ำดื่มพลาสติกใช้แล้ว โซฟาบุจากผ้าทอจากเส้นด้ายผลิตจากเศษผ้ารีไซเคิล โคมไฟทำจากไม้ไผ่ผลิตภัณฑ์ Amenity Kits ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน (Groundwater Banking) การบริหารจัดการน้ำครบวงจรเป็นแหล่งกักเก็บน้ำชั้นใต้ดินในชั้นหินอุ้มน้ำในช่วงหน้าฝน เพื่อนำกลับมาใช้ในยามที่ต้องการ มื้ออาหารเน้นการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชนในท้องถิ่น เน้นความสด สะอาด ปลอดสารเคมี มีแปลงผัก และสมุนไพรที่บุคลากรภายในโรงแรมช่วยกันปลูกและดูแล เป็นแปลงผักปลอดสารที่ใช้ปุ๋ยจากใบไม้แห้ง เศษวัชพืชและเศษอาหารที่ผ่านการคัดแยกมาหมักเป็นปุ๋ย เป็นการจัดการขยะแบบยั่งยืนและช่วยลดขยะอินทรีย์เข้าสู่ระบบขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ลดการใช้พลาสติก และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน รถไฟฟ้า เพื่อแทนการซื้อเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมีกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆเพื่อส่งต่อแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่แขกที่เข้ามาพัก

นายธีระศักดิ์ กาญจนจงกล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง หนึ่งในโรงแรม CF-Hotels ย่านอ่าวนาง จ.กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมดีวาน่าฯ เป็นโรงแรมสถานที่พัก และจัดประชุมระดับ 4 ดาว ที่มีความยืนยงมาถึง 13 ปีด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคงเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นทางภาคใต้กับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกนำมาใช้ในการออกแบบอาคาร ตัวอาคารมีความโปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดี และใช้แสงสว่างจากธรรมชาติในเวลากลางวัน ผนวกการให้ความสำคัญด้านการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง อาทิ การจัดการเรื่องเสียงโดยเฉพาะส่วนของห้องประชุม ที่มีการบริหารจัดการแบบรักษ์โลกลดการใช้ผ้า และการใช้ดอกไม้ตกแต่ง การจัดการด้านอากาศ ควบคุมไม่ให้มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ดูแลคุณภาพน้ำทิ้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่โดยนำมารดน้ำต้นไม้ภายในโรงแรม โดยไม่ปล่อยออกสู่ลำรางสาธารณะ การคัดแยกขยะ การจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว งดใช้พลาสติกหรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reduce Recuse Recycle) การลดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุด โดยคาดการณ์ว่า จะลดปริมาณได้ถึง 220,711.94 kWh หรือ 110.33 tonCO2e ต่อปี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 926,990 บาทต่อปี

นางสาวเข็มอัปสร สิริสุขะ หรือ เชอร์รี่ หนึ่งในศิลปินดาราที่หันมาใส่ใจและทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า 10 ปี กล่าวถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า “คนเรามักมองปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่แท้จริงแล้วปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ มันส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไป ถึงเวลาที่เราควรร่วมมือร่วมใจกันคนละเล็กละน้อยปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเชอรี่ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เลือกเชอร์รี่เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะช่วยกันผลักดันแคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก แค่เลือกพักก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว ชื่นชมผู้ประกอบการโรงแรมในกระบี่ ตลอดจนทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจอย่างดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม นับเป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง”

นางสาวกัสมาพร ลิปนพงศ์เทพ อุปนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา กระบี่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ 3.8 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 52,500 ล้านบาท มาจากจุดขายของกระบี่ คือ ความสวยงาม และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และตามวิสัยทัศน์ “KRABI GO GREEN” โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี BCG (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับโลก และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ผ่านกิจกรรมภายใต้การลงนามความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ KRABI CARBON NEUTRAL TOURISM 2040 เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสถานประกอบการภาครัฐและเอกชน 22 แห่ง และเครือข่ายระดับประเทศ 10 แห่ง และระดับจังหวัดอีก 12 แห่ง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงแรมได้รับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมแล้วกว่า 33 แห่ง ในสมาคมฯ มีโครงการ “ขยะโรงแรมกระบี่ไม่กำพร้า” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม โดยนำขยะโรงแรมที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ส่งต่อให้โรงงานนำไปแปรรูปเอาไปใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง (RDF) และอีกส่วนนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ในโรงแรม และเป็นของที่ระลึก โดยมีสมาชิกฯเข้าร่วมโครงการแล้ว 35 แห่ง

นางสาวสญาดา เบญจกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ หนึ่งในพันธมิตร กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการฯของ ททท. ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของสายการบินที่อุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเช่นกัน ได้แก่ การลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติการบิน กิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การลดสาเหตุของภาวะโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญโดย เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้ริเริ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนนี้ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 แม้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา และยังคงขีดความสามารถในการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น นอกจากนี้ยังดำเนินกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ และกองทุนฟลายกรีน สามารถติดตามได้ที่ www.vietjetair.com.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย