ครม.เดินหน้าความร่วมมือแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นสนับสนุน เกือบ 2 พันลบ.


กรุงเทพฯ 1 ธ.ค. – ครม.เดินหน้าความร่วมมือแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นสนับสนุน เกือบ 2 พันลบ. เพื่อความร่วมมือทางการแพทย์ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในชนบท


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ว่า ครม. เห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 13 และมอบหมายส่วนราชการเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสาระสำคัญของการประชุมมีดังนี้

1.ประเทศญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มจำนวนเงินช่วยเหลือจากเดิม 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) สำหรับการขยายความร่วมมือด้านวิชาการแก่บุคลากรทางการแพทย์และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลและสถาบันทางการแพทย์อื่นๆ ในประเทศลุ่มน้ำโขง


2.อาเซียนได้มีข้อริเริ่มการจัดตั้งกองทุนเพื่อรับมือกับโควิด-19 และสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอื่นๆ ในอนาคตและการจัดตั้งคลังสำรองระดับภูมิภาคสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และมาตรการดำเนินการที่มีมาตรฐานในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

3.ประเทศไทยมีข้อเสนอเรื่อง “Project on sharing experiences and knowledge transfer through cross-border medical networking system” เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้และการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรับมือกับโรคระบาด

4.การยืนยันความมุ่งมั่นในการบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อกลุ่มผู้เปราะบาง การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาคเอกชนและภาคนวัตกรรมในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพตามหลักการ G20 ว่าด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ


5.ญี่ปุ่นได้มีข้อริเริ่ม KUSANONE Mekong SDG Initiative โดยจะสมทบเงิน 1,000 ล้านเยน (ประมาณ 300 ล้านบาท) สำหรับปี ค.ศ. 2020 เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ของชนบทและหมู่บ้านทั่วภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นนี้ เป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (ไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) กับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนานอกภูมิภาคคือญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน การลดความเหลื่อมล้ำ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทางสังคม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ทั้งนี้การดำเนินการตามมติฯจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นและประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการรับมือกับการระบาดของโควิด19 และสนับสนุนการทำงานร่วมกันเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง