ตร.ไม่ห่วงหากชุมนุมตามกรอบ ไม่บุกเขตหวงห้าม

กทม.25 พ.ย.- บช.น.เตรียมพร้อมรับมือมวลชนชุมนุมหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์  ไม่กังวลเหตุปะทะ หากผู้ชุมนุมเคารพกฎหมาย และไม่เข้าพื้นที่หวงห้าม


พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกและกลุ่มราษฎร ที่ประกาศตามเพจให้มวลชนรวมตัวกันและเดินทางมาที่สำนักงานทรัพย์สินฯ นั้น เบื้องต้นกลุ่มมวลชนยังไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งตามระเบียบจะต้องแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมกำลังพล คือ ตำรวจควบคุมฝูงชน, ตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจร, ชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่จะตั้งจุดตรวจค้นโดยรอบบริเวณ 5 สถานี ประกอบด้วย  สน.สําราญราษฎร์,  สน.ดุสิต, สน.สามเสน, สน.ชนะสงคราม และ สน.นางเลิ้ง ส่วนกำลังพลจะจัดตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยตำรวจจะตั้งแนวป้องกันเหนี่ยวรั้งไว้ตลอดทาง เพื่อกำหนดระยะ 150 เมตร รอบสำนักงานทรัพย์สินฯที่เป็นไปตามมาตรา 7 หากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในระยะ 150 เมตร จะพิจารณาว่าจะต้องใช้มาตรการอย่างไร เพราะต้องดูพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันจะมีการประกาศเตือนเป็นระยะหากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้ระยะที่มีการห้ามไว้ เช่น สถานที่สำคัญทางราชการ และสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์


ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันจะยึดหลักกฎหมายทำตามขั้นตอน ส่วนตัวไม่กังวลเหตุกระทบกระทั่งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม ปกติจะแยกกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ห่างกันเพื่อลดการเผชิญหน้า ส่วนกรณีกลุ่มราษฎรมีการรวบรวมกลุ่มการ์ดอาสากว่า 1,500 คน เพื่อเข้าไปดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม ตำรวจยืนยันไม่ห่วงเรื่องการปะทะ หากผู้ชุมนุมเคารพและปฎิบัติตามกรอบของกฎหมาย

พลตำรวจตรีปิยะ ยังกล่าวกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมแชร์ข้อมูลว่า ตำรวจระดมกำลัง 39 กองร้อย  ดูแลการชุมนุมวันพรุ่งนี้ ขอชี้แจงว่าการใช้กำลังของตำรวจมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ตามความเหมาะสม และการแชร์ข้อมูลว่ามีแนวโน้มการทำรัฐประหาร เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวนั้น ต้องตรวจสอบว่าการโพสต์หรือแชร์ข้อมูลนั้นเป็นการยั่วยุปลุกปั่นหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สำหรับการปิดการจราจรในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย) จะเริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 น. ซึ่งวันนี้ (24 พ.ย.) จะประชาสัมพันธ์ย้ำกับประชาชนละแวกใกล้เคียงเพื่ออธิบายการเดินทางเข้าออกพื้นที่ ส่วนหน่วยงานต่างๆ จนถึงโรงเรียน ได้ประสานทำความเข้าใจเพื่อเลี่ยงผลกระทบการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) แล้ว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”