สหรัฐ 24 พ.ย.-ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เรียกร้องความเป็นเอกภาพในประเทศ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าในวันนี้ หลังประเทศต้องแตกแยกอย่างหนักในศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่เขายอมรับว่าการสมานรอยร้าวในประเทศ คงไม่สามารถทำได้ภายในชั่วข้ามคืน
ทรัมป์ปราศรัยเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า เรียกร้องให้ชาวอเมริกันถือโอกาสนี้หันหน้ามาสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน เพื่อนำความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงมาสู่ประเทศ นั่นคือบ้านเมืองจะมีความปลอดภัยชุมชนทุกหัวระแหงจะมีความมั่งคั่ง ก่อนหน้านั้นทรัมป์ได้แสดงให้เห็นถึงท่าทีประนีประนอม ด้วยการแต่งตั้งผู้หญิง 2 คน ดำรงตำแหน่งในคณะบริหารของเขา คนแรกคือนางนิกกี ฮาลีย์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำสหประชาชาติ
ขณะที่นางเบ็ตซี เดวอส ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ แม้ผู้หญิงทั้ง 2 คนนี้จะเคยพูดจาไม่ไว้หน้าทรัมป์มาก่อนก็ตาม แต่ทรัมป์ยกย่องนางฮาลีย์ว่า เธอจะทำหน้าที่นำพาสหรัฐในเวทีโลกได้อย่างเหมาะสมที่สุด ขณะที่นางฮาร์ลีย์กล่าวว่า เธอยินดีรับตำแหน่งนี้ แต่ระหว่างนี้ก็จะทำหน้าที่ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา จนกว่าวุฒิสภาจะโหวตรับรองตำแหน่งใหม่ของเธอ ขณะเดียวกันมีรายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ล่าสุดว่า สรุปแล้วนางฮิลลารี ได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมากกว่านายทรัมป์ ถึง 2 ล้านเสียง นั่นคือนางฮิลลารีได้ 64.2 ล้านคะแนน ขณะที่ทรัมป์ ได้ไป 62.2 ล้านคะแนน นับเป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ผู้ชนะคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เพราะคะแนนตัดสินผู้ชนะคือคะแนนอิเลกทอรัลโหวต
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า บรรดานักวิชาการและทนายความ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลทั้งหลายพยายามชักจูง ให้ทีมงานหาเสียงของนางฮิลลารี ร่วมมือกับกลุ่มคนเหล่านี้ ในการตรวจสอบผลการเลือกตั้ง ในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐมิชิแกน และรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 3 รัฐ ที่มีการโหวต ด้วยอุปกรณ์ลงคะแนน แบบอิเลคทรอนิกส์ โดยคนกลุ่มนี้สงสัยว่าอาจมีการเจาะระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์โกงการเลือกตั้ง แต่ทีมงานของนางฮิลลารี ไม่สนใจเรียกร้องให้มีการ นับคะแนนใหม่.-สำนักข่าวไทย