กรุงเทพฯ 15 พ.ย.- โฆษกรัฐบาล หวังประชาชนทุกกลุ่มร่วมหารือแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมผู้นำที่เกียวข้องตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผ่านมา สังเกตได้ว่าแต่ละประเทศได้หยิบยกประเด็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 เป็นประเด็นหลักในการหารือร่วมกัน ดังนั้น รัฐบาลจึงอยากเสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ หลังจากที่คนไทยทุกภาคส่วนร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี จนปัจจุบันประเทศไทยสามารถก้าวข้ามปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีในระดับที่น่าพอใจ จนได้รับคำชมเชยจากนานาประเทศ และองค์กรต่างชาติมากมาย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งผลักดันการจัดหาวัคซีนผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.สนับสนุนงบประมาณให้หน่วยงานวิจัยภายในประเทศ 2.จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการร่วมผลิตวัคซีนกับต่างประเทศ 3.การจัดซื้อ เพื่อนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งหลายมาตรการที่ดำเนินการแล้วประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการอื่นๆ ที่กำลังจะออกมา เพื่อเร่งต่อยอดเศรษฐกิจและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกระดับชั้น โดยรัฐบาลย้ำให้แต่ละหน่วยงานตรวจสอบและดูแลแต่ละโครงการให้ประโยชน์ถึงมือประชาชนมากที่สุด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองว่า รัฐบาลไม่คิดปิดกั้น การแสดงออกทางการเมือง เพียงแต่อยากเห็นการชุมนุมเป็นไปในทางสร้างสรรค์ เคารพกฎหมาย และไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทย
“สิ่งที่รัฐบาลเป็นกังวลอย่างมากคือการสื่อสารในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีการเผยแพร่ข่าวปลอม หรือการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร (Fake News) และจากการตรวจสอบพบว่ามีปริมาณค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีการเสียดสีกลุ่มประชาชนผู้มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งจะยิ่งทำให้กลุ่มต่างๆ เกิดความขัดแย้ง การเข้าใจผิด และอาจเกิดปัญหาบานปลายได้
รัฐบาลจึงอยากขอเชิญชวนกลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่ม ร่วมกันนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้านอื่น นอกเหนือจากประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะการนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในมาตรการหรือโครงการต่างๆ รัฐบาลขอยืนยันว่า รัฐบาลยินดีและพร้อมรับฟังข้อเสนอ ข้อเรียกร้องที่สามารถนำมาเป็นแนวทางให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ หากแนวคิดใดที่เป็นข้อเสนอที่ดีและเหมาะสม รัฐบาลก็พร้อมนำมาปฏิบัติเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมและพร้อมผลักดันเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกคน” นายอนุชา กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ข้อเรียกร้องต่างๆ รวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินการด้วยกลไกของรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งน่าจะเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามระบบนิติรัฐ นิติธรรม ซึ่งรัฐบาลหวังให้มีแนวทางการแก้ปัญหาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง และหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่โดยรวม.-สำนักข่าวไทย