“สุริยะ” อุ้มผู้ประกอบการสู้วิกฤติโควิด-19

กรุงเทพฯ  11 พ.ย. –  “สุริยะ” อุ้มผู้ประกอบการสู้วิกฤติโควิด-19 สั่งกรมโรงงานฯ ลุยโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หวังเติมทุนช่วยเอสเอ็มอี พร้อมโชว์ผลงานปี 63 ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบกว่า 80,000 ล้านบาท


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครม.อนุมติหลักการยกเว้นค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเครื่องจักรเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับรายละเอียดประกอบด้วย 3 รายการ คือ 1. ค่าจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ปกติอัตราจัดเก็บอยู่ที่เครื่องละ 750 บาท แต่ไม่เกิน 12,000 บาท 2. ค่าเครื่องหมายการจดทะเบียน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ประทับหรือทำไว้ที่เครื่องจักร อัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่เครื่องหมายละ 120 บาท แต่ไม่เกิน 1,200 บาท และ 3. ค่าคัดสำเนาเอกสารพร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง อัตราจัดเก็บอยู่ที่หน้าละ 10 บาท ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประมาณการการสูญเสียรายได้จากการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมครั้งนี้ในรอบ 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท


“กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จึงได้กำชับให้ กรอ.เร่งดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีเงินทุนเข้าไปหมุนเวียนในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดการเลิกจ้างงาน พยุงภาคอุตสาหกรรมให้ยังสามารถทำหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาลด้วย” นายสุริยะ กล่าว

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) พบว่า มีมูลค่าการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการยื่นจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 1,157 ราย ในจำนวนนี้คิดเป็นเครื่องจักรที่จดทะเบียน 6,036 เครื่อง โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำเครื่องจักรดังกล่าวมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินในระบบ คิดเป็นวงเงินจำนองประมาณ  80,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการกว่า 107 ราย จำนวนเครื่องจักร 2,131 เครื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 600 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 3 ปี

สำหรับปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) กรอ.ยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการนำเครื่องจักรเข้ามาจดทะเบียนมากกว่า 1,300 ราย และมีเอสเอ็มอีนำเครื่องจักรเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 2,200 เครื่อง ทำให้ผู้ประกอบการมีเงินลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรมากขึ้น 10-15%.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น