ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน

28 ธ.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้

วันนี้ (28 ธันวาคม 2567) เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และของส่วนพระองค์ จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2277 มีพระนามเดิมว่า สิน ทรงก่อตั้งราชอาณาจักรธนบุรีขึ้น หลังจากทรงกอบกู้เอกราช และทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยาที่ถูกทำลายจนเสื่อมโทรมไปยังกรุงธนบุรี และทรงรวบรวมแผ่นดินให้กลับเป็นปึกแผ่น นอกจากนี้ยังทรงฟื้นฟูราชอาณาจักรในด้านต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทรงครองราชย์เป็นเวลา 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อปี 2325 พระชนมพรรษา 48 พรรษา ภายหลังรัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่ทรงปราบดาภิเษก เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน” และถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”

ต่อมา เวลา 17.36 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะกรรมการมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานมูลนิธิฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นำนักเรียนทุนพระราชทานฯ รุ่นที่ 16 ปีการศึกษา 2567 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานทุนการศึกษา นักเรียนทุนพระราชทานฯ ดีเด่น รุ่นที่ 13 และครูดีเด่น ประจำปี 2567 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติ กับนักเรียนทุนพระราชทานฯ รุ่นที่ 7 รุ่นที่ 8 และรุ่นที่ 9 ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2566 และนักเรียนทุนเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประจำปี 2567 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้บรรจุเข้ารับราชการ และรับพระราชทานทุนศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในการนี้ คณะครูผู้ดูแลนักเรียนทุนพระราชทานฯ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ด้วยทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินจากผู้บริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล ตั้งแต่ปี 2552 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ที่ผ่านมา 15 ปี มีนักเรียนผู้ได้รับทุนพระราชทาน รวม 2,411 คน ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว 9 รุ่น จำนวน 1,111 คน ร้อยละ 85 มีงานทำแล้วทั้งในภาครัฐและเอกชน และร้อยละ 68 กลับไปทำงานในภูมิภาคและภูมิลำเนาของตนเอง

ในปีการศึกษา 2567 มูลนิธิฯ ได้จัดสรรทุนพระราชทาน สำหรับนักเรียนทุนฯ รุ่นที่ 16 จำนวน 153 คน และรุ่นที่ 7 ถึงรุ่นที่ 15 จำนวน 1,002 คน ที่กำลังเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและปริญญาตรี รวมเงินทุนพระราชทานในปีนี้ ทั้งสิ้น 96 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปีนี้คัดเลือกนักเรียนทุนดีเด่น รุ่นที่ 13 จำนวน 10 คน เป็นผู้มีผลการเรียนดีเยี่ยม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี มีทัศนคติที่ถูกต้องดีงาม มีจิตอาสา และคัดเลือกครูดีเด่นจากทุกภาค จำนวน 8 คน ที่เป็นครูผู้ทุ่มเททำหน้าที่ครูเพื่อศิษย์อย่างแท้จริง สมควรแก่การยกย่อง เข้ารับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติ

สำหรับนักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ได้รับการคัดเลือกให้รับทุนเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นทุนการศึกษา ระดับปริญญาโทในต่างประเทศ และในประเทศ ที่ได้บรรจุเข้ารับราชการ จำนวน 10 คน บรรจุเข้ารับราชการแล้ว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ปฏิบัติงานในหน่วยราชการต่าง ๆ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับนักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ที่ล้วนมีจิตใจมั่นคง จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มุ่งมั่นดำรงตนให้ถึงพร้อมด้วยความดี มีคุณธรรม และความรู้ ร่วมทำประโยชน์ให้ส่วนรวมและประเทศชาติ ตอบแทนคุณแผ่นดินต่อไป.-211-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเจจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.