สศค.ยืนยันช่วยเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ  7 ต.ค. – สศค.ยืนยันออกหลายมาตรการดูแลเอสเอ็มอี ทั้งพักชำระหนี้ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ค้ำประกันสินเชื่อ


สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ชี้แจงกรณีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลเอสเอ็มอีจากการแชร์ข้อมูลของคุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการด้านการเงิน เพื่อให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ดังนี้ 1.พ.ร.ก. Soft Loan ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แบ่งเป็นมาตรการสินเชื่อเพิ่มเติม วงเงินรวม 500,000 ล้านบาท โดย ธปท.ให้สถาบันการเงินกู้ยืมในอัตรา 0.01% ต่อปี เพื่อให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้แก่เอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 500 ล้านบาท วงเงินไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้างของลูกหนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 คิดดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี โดยเอสเอ็มอีไม่ต้องชำระดอกเบี้ย 6 เดือนแรก และพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เพื่อให้ เอสเอ็มอีไม่ต้องมีภาระในการชำระหนี้แก่สถาบันการเงินเป็นระยะเวลา 6 เดือน

2.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS Soft Loan พลัส วงเงินค้ำประกัน 57,000 ล้านบาท โดย บสย.ค้ำประกันสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีที่มีคุณสมบัติตาม พ.ร.ก. Soft Loan คิดอัตราค่าธรรมเนียม 1.75% ต่อปี ระยะเวลาค้ำประกัน 8 ปี โดยเริ่มค้ำประกันและเก็บค่าธรรมเนียมต้นปีที่ 3 นับจากวันที่ได้รับสินเชื่อตาม พ.ร.ก. Soft Loan เพื่อให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น และสามารถปล่อยสินเชื่อในแก่เอสเอ็มอียาวขึ้น ทำให้เกิดความคล่องตัวในการอนุมัติสินเชื่อ และให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อตาม พ.ร.ก. Soft Loan ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ


นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ดังนี้ 1. ธนาคารออมสินดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเอสเอ็มอีทั่วไปและเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่มละ 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน ดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี และสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อต่อให้เอสเอ็มอีวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยร้อยละ 2% ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี โดยธนาคารออมสินจะปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีโดยตรง 3,000 ล้านบาท และยังมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับเอสเอ็มอีขนาดเล็กในธุรกิจท่องเที่ยวและ Supply Chain วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ 5 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี

2. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ดำเนินโครงการสินเชื่อ Extra Cash วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอีขนาดย่อมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ระยะเวลากู้ 5 ปี  3. บสย.ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 8 วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดย บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้กับ เอสเอ็มอีทั่วไป วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย อัตราค่าธรรมเนียม 1.75% ต่อปี ค้ำประกัน 10 ปี 4. รัฐบาลยังมีโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายย่อยผ่านกองทุน สสว. โดยให้สินเชื่อแก่เอสเอ็มอีทั่วไป รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง วงเงินต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี ระยะเวลากู้ 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐจัดทำเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน .com และ ธปท. ได้จัดทำเว็บไซต์ www. bot.or.th /covid19 เพื่อรวบรวมมาตรการด้านการเงินของสถาบันการเงินในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลและมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยกระทรวงการคลังได้มีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนแก้ไขปัญหาข้อติดขัดในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ และพร้อมที่จะออกมาตรการที่เหมาะสมมาดูแลเศรษฐกิจไทยได้อย่างทันการณ์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เข้มคุมชายแดน

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เพิ่มความเข้มแนวชายแดน ลาดตระเวนทั้งพื้นดิน น้ำ อากาศ ตลอด 24 ชม. ขานรับมาตรการป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย หลังกองกำลังบูรพา ยกระดับการควบคุม ทหารหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 เพิ่มความเข้มตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จัดกำลังพลออกลาดตระเวนทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณพื้นที่คลองลึก คลองพรหมโหด คลองน้ำใส เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย สอดรับกองกำลังบูรพายกระดับควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในเมืองปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 17 มิ.ย.68 เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ชายแดนช่องจอมลุ้นนำเข้าผัก-ผลไม้ไทยปกติ

สุรินทร์ 17 มิ.ย. – ชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ขณะนี้แม้จะยังไม่มีสัญญาณจากทางการไทยว่าจะกลับมาเปิดด่านชายแดนตามปกติ แต่บรรดาผู้ค้าตลาดชายแดนยังหวังทั้งสองฝ่ายจะไม่มีมาตการกีดกันการค้าเพิ่ม ซ้ำเติมผลกระทบที่หนักอยู่แล้วในปัจจุบัน ประตูจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกปิดเป็นระยะแบบนี้ตามมาตรการกดดันกัมพูชา ครบ 1 สัปดาห์แล้ว หลังทางการไทยลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่านเหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 7 ชั่วโมง จากเดิมเปิดทุกวัน วันละ 16 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าช่องจอมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ล่าสุดต้องลุ้นหนักขึ้นไปอีก หลังวานนี้ (16 มิ.ย.) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขู่ว่าจะห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้ไทย หากไทยไม่กลับมาเปิดด่านตามปกติ ทำให้ผู้ค้าผัก-ผลไม้ในตลาดชายแดนช่องจอม วิตกอย่างหนัก อย่างแม่ค้าชาวจันทบุรีคนนี้ปักหลักค้าขายผลไม้ที่ช่องจอมมา 12 ปี การลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่าน ยอดขายวันละ 40,000 บาท […]

ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก-กัมพูชาเปิดด่านปกติ

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก ฝั่งกัมพูชาเปิดด่านปกติ ขณะที่ไทยเพิ่มความเข้มงวดอย่างยิ่งยวด ใครอยู่ฝั่งปอยเปตให้รีบกลับ ส่วนคนไทยที่จะข้ามไปกัมพูชา หากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ฝั่งไทยได้มาเปิดประตูตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามปกติ ตามมาตรการผ่อนคลายที่ให้นักเรียนสามารถข้ามไปมาได้ จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและกรมศุลกากร เปิดประตูใหญ่ให้ประชาชนสัญจรทั่วไปได้ตามเวลาที่กองกำลังบูรพากำหนดในขณะนี้คือ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและทางฝั่งไทยจับตาดูฝั่งกัมพูชาว่าในเวลา 09.00 น. จะมีการเปิดด่านหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าฝั่งกัมพูชาอาจมีการปิดด่าน แต่เมื่อถึงเวลา 09.00 น. ปรากฏว่าด่านเปิดตามปกติและภาพที่เห็นขณะนี้คือมีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ข้ามมาฝั่งไทย เพื่อติดต่อค้าขายและทำการค้าตามปกติ อีกส่วนหนึ่งที่มีการจับตาในวันนี้คือ หลังกองกำลังบูรพาออกคำสั่งเมื่อค่ำวานนี้ และมีผลตั้งแต่ 08.00 น. วันนี้ ในการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของคนไทย ที่จะข้ามแดนไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา คือเพิ่มความเข้มงวดคนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของบ่อนการพนันกาสิโนและสถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต ออกนอกราชอาณาจักร ทุกจุดผ่านแดนในจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้ […]

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025

ทำเนียบ 17 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา Miss World 2025″ พร้อมสานต่อโครงการฯ ให้กำลังใจนายกฯ Women to Women ขณะข้าราชการ-สื่อ แห่ถ่ายรูปคึกคัก ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล Miss World 2025 คนที่ 72 หลังคว้ามงกุฎฟ้า มงแรกให้กับประเทศไทย พร้อมด้วยนางจูเลีย มอลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ พร้อมด้วย แม่ปุ้ย นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล โดยมีบรรดารัฐมนตรีร่วมต้อนรับและถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีสนับสนุนโครงการ Opal for her […]