วอชิงตัน 4 พ.ย.- บริษัทวิจัยสื่อในสหรัฐเผยว่า ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐยังไม่สามารถชี้ขาดได้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้คะแนนจากชาวลาตินและกลุ่มผิวสีมากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ แต่อาจถูกหักลบจากการเสียฐานเสียงเดิมที่เคยสนับสนุนเขาเมื่อ 4 ปีก่อน
เอดิสันรีเสิร์ชซึ่งตั้งขึ้นในปี 2537 เป็นบริษัทเดียวที่ส่งข้อมูลเอ็กซิตโพลล์ให้แก่เครือข่ายโทรทัศน์ที่อยู่ในสถานีโทรทัศน์รวมการเลือกตั้งแห่งชาติของสหรัฐ ดำเนินการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้ไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง สัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้ใช้สิทธิตามคูหาเลือกตั้งล่วงหน้า และโทรศัพท์สัมภาษณ์ผู้ลงคะแนนล่วงหน้าทางไปรษณีย์ เอดิสันรีเสิร์ชเผยเอ็กซิตโพลล์ว่า ในรัฐฟลอริดาที่เป็นรัฐสวิงสเตท ทรัมป์และไบเดนได้คะแนนชาวลาตินคนละครึ่ง จากที่ทรัมป์เคยได้ 4 ใน 10 ในการเลือกตั้งปี 2559 การเลือกตั้งปีนี้ทรัมป์ได้คะแนนคนผิวสีทั้งหมด 3 ใน 10 เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ได้ 2 ใน 10 และยังคงรักษาคะแนนคนผิวขาวได้ 6 ใน 10 เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งก่อน เช่นเดียวกับเทกซัส รัฐสวิงสเตทอีกหนึ่งรัฐ ทรัมป์ได้คะแนนคนพูดภาษาสเปน 4 ใน 10 เพิ่มขึ้นจาก 3 ใน 10
เอ็กซิตโพลล์ระดับประเทศชี้ว่า ในขณะที่ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ในกลุ่มคนผิวสี แต่ทรัมป์ได้คะแนนจากกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3 จุด เป็นชาวอเมริกันแอฟริกันร้อยละ 11 คนพูดภาษาสเปนร้อยละ 31 และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียร้อยละ 30 ขณะเดียวกันพบว่า ทรัมป์เสียคะแนนในกลุ่มชายผิวขาวและผู้สูงอายุในรัฐสวิงสเตทอย่างจอร์เจีย เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซินที่เคยชนะในการเลือกตั้งครั้งก่อน เพราะคะแนนจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถขี้ขาดได้.- สำนักข่าวไทย