กทม.3 พ.ย.- ปวีณา ฯ พาแม่และเด็กหญิง วัย 13 ปี แจ้งดำเนินคดี หลังถูก 5 นักเรียนชาย ม.2 รุมอนาจารในห้องเรียน ย่านปิ่นเกล้า
เมื่อเวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเด็กและสตรี พามารดา พี่สาว และ ด.ญ. มิลค์ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนมัธยมมีชื่อแห่งหนึ่ง ย่านสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รอง ผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บาง ยี่ขัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นักเรียนชายร่วมห้อง 5 คน ซึ่งก่อเหตุร่วมกันกระทำการอนาจารภายในห้องเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
ด.ญ.มิลค์ เล่าว่า เวลา13.00น.วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เข้าห้องรอเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ โดยตนนั่งโต๊ะหน้าห้อง ได้มีนายเอ อายุ17 ปี เพื่อนร่วมห้อง ที่เรียนซ้ำชั้นอยู่หลายปี และยังเป็นหัวโจกประจำห้อง พร้อม ด.ช.บี ด.ช.ซี ด.ช.ดี และด.ช.อี อายุระหว่าง13-14 ปี เข้ามาช่วยกันจับแขนจับขาและปิดปากไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือก่อนพาไปหลังห้องพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่ดิ้นรนจนหลุดออกมาได้ แล้วมานั่งร้องให้อยู่ที่โต๊ะหน้าห้องเรียน ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่อาจารย์เดินไปนอกห้อง ต่อมากลุ่มของนายเอ ก็กลับมาช่วยกันตน ไปที่หลังห้องเรียนเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งขณะนั้นมีนักเรียนอยู่ในห้องประมาณ35คน แต่ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเพราะกลัวนายเอ ที่มีอายุมากสุด และคงคิดว่าเป็นการล้อเล่นกัน โดยพยายามร้องให้เพื่อนช่วยอยู่หลายครั้ง แต่กลุ่มนายเอได้ช่วยกันจับแขนขาตนและเอามือปิดปาก 2 ในกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงพละ และใช้นิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ ถกเสื้อชั้นในดูดหน้าอก แต่ได้ดื้นรนขัดขืนจนหลุดมาได้อีกครั้ง แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เลิกราตามมาอุ้มฉุดกระชากไปที่หลังท้องเรียนเป็นครั้งที่ 3 และคราวนี้ลากเข้าไปในห้องเก็บของที่อยู่สึกเข้าไปอีก ตนกรีดร้องสุดชีวิต ก่อนที่เพื่อนในห้องจะวิ่งมาดูเห็นสภาพตน ถูกจับกอดกางเกงพละและกางเกงในนอนเปลือยกายท่อนล่างอยู่แล้วกลุ่มของนายเอก็ได้แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด.ญ.มิลค์ เผยต่อไปทั้งน้ำตาว่าต่อมาตนพร้อมเพื่อนสนิทพากันไปแจ้งกับอาจารย์ฝ่ายปกครองให้ทราบก่อนที่อาจารย์จะเรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คน มาสอบถามพร้อมเรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมารับทราบเรื่อง ซึ่งนักเรียนชายทั้ง 5 คน รับสารภาพ โดยโรงเรียนพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ฝ่ายตนตกลงไม่ดำเนินคดีกับฝ่ายผู้ปกครองของนักเรียนชายทั้ง5 คน เนื่องจากเกรงว่าโรงเรียนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ด้าน มารดา ด.ญ. มิลค์ กล่าวว่า นักเรียนชาย กระทำการ โดยไม่เกรงกลัวอาจารย์ และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในห้องกว่า 30 คน โดยคาดว่าทั้ง 5 คน อาจจะคูคลิปโป๊จนเกิดอารมณ์ทางเพศและเห็นว่าลูกสาวตัวเล็กที่สุดในห้องคงจะไม่มีเรี่ยวแรงและไม่กล้าขัดขืนจึงกล้าก่อเหตุขึ้นดังกล่าวต่อมาวันที่28 ต.ค. ทางโรงเรียน ได้นัดผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากัน โดยตนไม่รู้ว่าทางโรงเรียนได้เตรียมข้อบันทึกตกลงที่มีข้อความระบุว่านักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ และฝ่ายนักเรียนชายพร้อมผู้ปกครองทั้ง 5ครอบครัวจะนำพวงมาลัยดอกไม้มากราบขอขมากับตนแลกกับการไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ส่วนทางโรงเรียนจะทำการหักคะแนนความประพฤตินักเรียนชายทั้ง 5 คนคนละ 35 คะแนน พร้อมทำทัณฑ์บนหากมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมโรงเรียนจะดำเนินการย้ายสถานศึกษาโดยน.ส.มิ้ง พี่สาว ถูกกดคัน จนต้องเซ็นชื่อรับทราบเรื่องดังกล่าวด้วยโดยในบันทึกข้อความดังกล่าวมีผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นพยานเซ็นรับทราบข้อความทั้งหมด
ตนสงสารลูกสาวมาก ทุกคนทำเหมือนลูกสาวไม่ใช่คน แค่ดอกไม้มาขอขมาแล้วจบกลัวว่าจะเสียชื่อเสียงของโรงเรียนตนจึงตัดสินใจมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯช่วยพาเข้าแจ้งความ ขอความเป็นธรรมเพื่อจะได้ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายกับนักเรียนหญิงคนอื่นอีก
นางปวีณา กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมบ้านเราในปัจจุบันดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีมาตราการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปกปิดปัญหาก็จะไม่จบ โดยทางโรงเรียนจะต้องรายงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ลงมาแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกและในวันนี้ได้ประสานไปยัง ผู้แทน กระทรวงศึกษา ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ.เพื่อให้ด.ญ.มิลค์ และผู้ปกครอง เข้าพบรับทราบเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันเหตุการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโรงเรียน
ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องของเยาวชน ซึ่งจะต้องประสานนักจิตวิทยา สหวิชาชีพ ร่วมสอบสวนเด็กทั้งหม ดส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และเชิญตัวผู้ปกครองของทั้ง2ฝ่ายมาสอบสวน ส่วนเอกสารที่ทางโรงเรียนให้พี่สาวของด.ญ.ผู้เสียหายเซ็นนั้นก็เป็นหลักฐานที่สำคัญในการรรับสารภาพรับว่ามีเหตุการนั้นได้เกิดขึ้นจริงอีกด้วย – สำนักข่าวไทย