นครราชสีมา 1 พ.ย. – พล.อ.ประวิตร ลุยโคราช ให้กำลังใจชาวบ้านจากน้ำท่วม เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาให้สู่ภาวะปกติโดยเร็ว
วันนี้ (1 พ.ย.63) เวลา 08.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา พร้อมตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยบ้านหนองอ้อ ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง และบ้านขาม ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวบรรยายสรุปรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและผลกระทบในพื้นที่
พลเอกประวิตร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง จ.นครราชสีมา อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมขังและลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อาทิ การเร่งพร่องน้ำเขื่อนที่มีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์เก็บกักน้ำ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งด้านท้ายน้ำ บริหารจัดการน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ขุดลอกลำน้ำ และกำจัดผักตบชวา สำรวจสภาพของเขื่อนต่างๆ รวมทั้งอาคารชลประทานในพื้นที่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าตัวเขื่อนตลอดจนอาคารชลประทานมีความมั่นคงแข็งแรงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยโดยเร็วด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันพบว่ายังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอเมือง อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอจักราช และอำเภอสูงเนิน
พลเอกประวิตร กล่าวย้ำให้บูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ ประชาชนจิตอาสา ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ด้วยการเร่งการระบายน้ำ พร่องน้ำ ให้ประชาชนได้เข้าอยู่อาศัยในบ้านโดยเร็ว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการกลับเข้าพักอาศัยในที่อยู่อาศัย เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวให้เหมาะสมและครบถ้วน ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน กรณีเส้นทางจราจร ถนนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก รวมทั้งซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย ให้สามารถใช้การได้โดยเร็ว รวมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมรับสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้น ให้ทันเวลา และเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่การเกษตร เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ด้วยความโปร่งใส ทั่วถึง และเป็นธรรม ตามระเบียบของทางราชการ เร่งการสร้างแหล่งเก็บน้ำ เพื่อไว้ใช้ในฤดูแล้ง แบบหลุมขนมครก และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตนเองร่วมกัน เพื่อจัดสร้างแหล่งน้ำประจำชุมชน และปรับรูปแบบการทำเกษตรแบบใหม่ รวมถึงเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมในพื้นที่ และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่ประสบภัย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน อาสาสมัครทุกภาคส่วน ขอให้ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย