เพชรบูรณ์ 30 ต.ค.-สุดหวาดเสียว กระบะแหกโค้งพุ่งชนเพิงขายกล้วยทอด ไม้คานหลังคาเพิงร้านขายกล้วยทอดหักพุ่งเสียบท้องแฟนสาวที่นั่งมาด้วย ติดคาเบาะรถ และไม้ยังเสียบทะลุเบาะออกมาอีกไม่น้อยกว่า 10 ซม.
วินาทีเจ้าหน้าที่ช่วยกันใช้เลื่อยไฟฟ้า เลื่อยไม้ความยาวประมาณ 3 เมตร ที่เสียบคาอยู่หน้าท้อง ทะลุหลัง น.ส.สุธิดา คำฤทธิ์ อายุ 22 ปี ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถกระบะเบาะหน้าข้างคนขับ โดยไม้ท่อนนั้นยังทะลุออกไปด้านหลังเบาะอีก 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันเลื่อยท่อนไม้ให้เหลือสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เพื่อโดยเธอเองก็ร้องด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา บริเวณโค้งโรงสีไฟไหม้ ถนนบูรกรรมโกวิทย์ ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ กระบะอีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน ผข 1108 เพชรบูรณ์ ชนเสาไฟฟ้าจนหัก หน้ารถพังยับ นอกจากนี้ยังพบเพิงร้านขายกล้วยทอด ได้รับความเสียหาย
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายศุภเสกข์ กองเกิน อายุ 23 ปี คนขับกระบะ ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขับรถพาแฟนสาว คือ น.ส.สุธิดา คำฤทธิ์ ที่ได้รับบาดเจ็บถูกไม้เสียบเข้าท้อง ออกจากในตัวเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อที่จะกลับห้องพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งรถเกิดเสียหลักปีนทางเท้า พุ่งไปชนเพิงขายกล้วยทอด ก่อนจะชนกับเสาไฟฟ้าจนหัก โดยขณะชนเพิงร้านขายกล้วยทอด พบว่ามีไม้คานหลังคายาวประมาณ 3 เมตร หักพุ่งทะลุกระจกหน้ารถ เข้ามาเสียบเข้าที่บริเวณท้อง น.ส.สุธิดา จนทะลุเบาะนั่ง เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดนำไม้ออกจากช่องท้อง
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เล่าว่า ขณะกำลังนอนดูทีวีอยู่ ได้ยินเสียงดังเหมือนรถชนอะไรบางอย่าง จึงออกมาดูก็พบรถกระบะคันดังกล่าว ชนร้านขายกล้วยทอดจนพังและติดอยู่กับเสาไฟฟ้า และพบว่ามีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ 1669 โดยตอนแรก เห็นผู้ชายพยายามดึงไม้ที่เสียบคาท้องผู้หญิงออก แต่ผู้หญิงร้องจึงหยุดดึง จากนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่บ้านอยู่แถวนี้ออกมาดู จึงห้ามไม่ให้ดึงไม้ออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือนำเลื่อยมาตัดไม้และส่งต่อยังโรงพยาบาล
ด้าน นายสุรพล สว่างแสง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเพิงขายกล้วยทอด เปิดเผยว่า ตนเองกับภรรยาเปิดร้านขายกล้วยทอดอยู่บริเวณดังกล่าวมานานแล้ว พร้อมเผยร้านของตนถูกรถยนต์เสียหลักพุ่งชนมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกประมาณกลางดึกของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รถชนร้านได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าของรถก็ซ่อมแซมให้ แต่ก็มาโดนชนอีกในครั้งนี้ ตนเองไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่ก็อยากจะให้ผู้ก่อเหตุได้มาซ่อมแซมร้านให้ก็พอแล้ว เพื่อจะได้ทำมาหากินต่อไป สำหรับโค้งบริเวณนี้เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ แต่ส่วนมากจะเกิดในเวลากลางคืน ที่สูญเสียมากที่สุดคือรถยนต์แหกโค้งชนต้นไม้ โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 4 รายด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย