ซิดนีย์ 28 ต.ค. – รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเผยวันนี้ว่า มีผู้โดยสารหญิงบนเครื่องบิน 10 ลำในกรุงโดฮาของกาตาร์ถูกบังคับให้ตรวจร่างกายที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิ ขณะที่ทางการกาตาร์ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลียกล่าวว่า มีผู้โดยสารหญิงบนเครื่องบิน 10 ลำที่ถูกบังคับให้ตรวจร่างกาย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก และมองว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการล่วงละเมิดและไม่เคารพสิทธิในร่างกาย ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า มีผู้โดยสารหญิง 18 คน ในจำนวนนี้มีหญิงชาวออสเตรเลีย 13 คนที่ได้รับผลกระทบในเที่ยวบินที่กำลังออกเดินทางไปยังนครซิดนีย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา และยังมีผู้โดยสารชาติอื่น ๆ อีกด้วย ขณะที่ทางการกาตาร์ออกแถลงการณ์ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดหลบหนีจากคดีร้ายแรง ทางการขอแสดงความเสียใจต่อการกระทำที่ถือเป็นการสร้างความเจ็บปวดหรือล่วงละเมิดสิทธิของผู้โดยสาร อย่างไรก็ดี
แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของการบังคับผู้โดยสารหญิงให้ตรวจร่างกาย โดยระบุเพียงว่า ได้ดำเนินการค้นหามารดาของทารกที่ถูกห่อถุงพลาสติกและทิ้งไว้ในถังขยะ
ทางการกาตาร์ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก หลังนำตัวผู้โดยสารหญิงหลายคนออกจากเที่ยวบินของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ที่กำลังจะออกเดินทางไปยังนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย และบังคับให้ตรวจช่องคลอดเพื่อหาร่องรอยของการให้กำเนิดทารกที่ถูกทิ้งไว้ภายในท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัดของกาตาร์. – สำนักข่าวไทย