fbpx

BIG STORY : ลำดับเหตุการณ์สลายชุมนุมคณะราษฎร 2563

กรุงเทพฯ 15 ต.ค. – สำนักข่าวไทย รวบรวมภาพเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ต่อเนื่องไปจนถึงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้


เวลา 01.00 น. การชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริเวณ ถ.พิษณุโลก ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ไปถึงแยกสวนมิสกวัน ถ.ราชดำเนิน พบมวลชนปักหลักฟังคำปราศรัยของแกนนำคณะราษฎร 2563 หลังสามารถเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นผลสำเร็จตั้งแต่เมื่อวาน

เวลา 02.00 น. นายอานนท์ นำภา ให้สัมภาษณ์เตรียมยุติการชุมนุมที่หน้าทำเนียบฯ ในช่วงเช้า โดยนัดหมายให้ไปชุมนุมต่อที่แยกราชประสงค์ ในช่วงเย็น


เวลา 03.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการรื้อเวทีและยุติการปราศรัยบนเวทีทั้งหมด แต่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการถูกสลายการชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างเตรียมพร้อมในที่ตั้ง ขณะที่แกนนำได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เพราะเชื่อว่าเป็นการสับเปลี่ยนกำลังของตำรวจ

เวลา 04.00 น. นายกรัฐมนตรี ลงนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมสถานการณ์และใช้อำนาจตามกฎหมายในการดูแล

เวลา 04.30 น. ชุดควบคุมฝูงชนได้เข้าขอคืนพื้นที่บริเวณ ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบฯ แต่เกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ขณะที่แกนนำได้ประกาศให้มวลชนกลับบ้าน เกรงว่าอาจมีกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมจนเป็นอันตราย


จากนั้นเวลา 04.45 น. บรรยากาศตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อชุดควบคุมฝูงชนระดมกำลังเข้าพื้นที่ ก่อนกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุม มีการขว้างปาสิ่งของ จากนั้นได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมทยอยออกจากพื้นที่และเดินทางกลับบ้าน กระทั่งเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร 2563 ประกาศให้ผู้ชุมนุมทยอยเดินเท้ากลับบ้านทาง ถ.พิษณุโลก มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง และเมื่อส่งผู้ชุมนุมจนเสร็จสิ้น ปรากฏว่า กำลังตำรวจได้ตั้งแผงกั้นไม่ให้ขบวนของนายอานนท์เดินผ่าน ก่อนแสดงหมายจับและแจ้งสิทธิให้ทราบ ก่อนที่นายอานนท์จะยอมให้คุมตัว

เวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจที่ตรึงกำลังบริเวณแยกอุรุพงษ์ ได้ถอนกำลัง พร้อมเปิดการจราจร ส่วนที่หน้าทำเนียบฯ สามารถสัญจรได้ตามปกติ แต่มีเจ้าหน้าที่ปักหลักอยู่ภายใน ขณะที่ชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบสิ่งของอันตราย และทำความสะอาดพื้นผิวการจราจรบน ถ.พิษณุโลก ก่อนเปิดเส้นทางการจราจร

โลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิปเจ้าหน้าที่บุกจับกุม “รุ้ง ปนัสยา” และ “ชานนท์ ไพโรจน์” 2 แกนนำ ที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีการอ่านหมายจับ แต่ผู้ต้องหาแสดงอารยะขัดขืน ด้วยการฉีกหมายจับและนั่งกอดอก ก่อนถูกคุมตัวไปสอบสวน

เวลา 10.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เข้าเยี่ยมคารวะ ส่วนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทยอยเข้าทำงานตามปกติ

เวลา 11.50 น. โฆษกตำรวจ แถลงรายละเอียดจับกุมผู้ชุมนุม 22 คน เป็นแกนนำ 4 คน คือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายอานนท์ นำภา, นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แต่ไม่มีชื่อของนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง นอกจากนี้ยังมีคำสั่งช่วยราชการตำรวจ 3 นาย คือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจระดับผู้บังคับการ เพื่อตรวจสอบว่าบกพร่องหรือไม่

ช่วงเที่ยง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อเยี่ยมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวเมื่อช่วงเช้า และช่วยเหลือเกี่ยวกับการประกันตัว ขณะที่พรรคก้าวไกล แถลงการณ์ประณามการใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล

โฆษกรัฐบาล แถลงความจำเป็นที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. และคำสั่งอีก 4 ฉบับ เนื่องจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) มีการก้าวล่วงสถาบัน จึงต้องรักษาความสงบ และป้องกันการเผชิญหน้าของกลุ่มเห็นต่าง ส่วนคณะรัฐมนตรีเตรียมประชุมนัดพิเศษ พรุ่งนี้ (16 ต.ค.)

เวลา 14.00 น. พบกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเริ่มเข้าพื้นที่แยกราชประสงค์ ขณะที่ตำรวจประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการรวมกลุ่มเกิน 5 คน รวมถึงอาจทำให้กระทบกับการจราจร

เวลา 15.00 น. สน.ปทุมวัน แจ้งปิดการจราจรบริเวณโดยรอบแยกราชประสงค์ ขณะที่พบกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวบริเวณสกายวอล์ก ได้เดินลงสู่พื้นผิวการจราจร จากนั้นมีการตั้งแถวเผชิญหน้ากับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมตะโกนขับไล่รัฐบาล ที่แยกราชประสงค์ ทั้งที่เป็นการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้