หน่วยพญาเสือจับกุมร้านเฟอร์นิเจอร์ใช้ไม้ผิดกฎหมาย จ.เชียงใหม่

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือบุกตรวจร้านขายเฟอร์นิเจอร์จากไม้หวงห้าม จ.เชียงใหม่ จับหญิงวัย 62 ปี พร้อมของกลางจำนวนมาก สอบพบเพิ่ม ที่อยู่รุกป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง



นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจพญาเสือกล่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) เข้าตรวจสอบ สถานที่ซึ่งเปิดกิจการค้าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ บ้านเลขที่ 229 หมู่ที่ 9 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อสร้างเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ ในร้านพบเครื่องเรือนทำจากไม้มีค่าจำนวนมาก โดยนางกิตติอาภา กรณ์ใหม่ อายุ 62 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน รวมทั้งนำเอกสารหนังสือกำกับสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดที่ทำจากไม้หวงห้าม 33 รายการ ตลอดจนสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ตรงกับเอกสารใดๆ อีก 2 รายการ ทั้งนี้ไม่พบเอกสารใบอนุญาตให้เปิดกิจการค้าสิ่งประดิษฐ์ จึงตรวจยึดทั้งหมด


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัดพื้นที่บริเวณบ้านด้วยเครื่องระบุพิกัดทางดาวเทียมปรากฏว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง เนื้อที่ 3-1-39 ไร่ การกระทำของนางกิตติอาภาเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 53 ตรี ฐานห้ามมิให้ผู้ใด ค้าหรือมีไว้ครอบครอง เพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 54 ฐานห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 69 ฐานผู้ใดมีไว้ครอบครองซึ่งไม้หวงห้าม อันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 74 โดยบรรดาไม้และของป่าอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ และสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ และสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามที่มีไว้ เนื่องจากการกระทำความผิด ตามมาตรา 53 ตรี ให้ริบเสียทั้งสิ้น และตามมาตรา 14 แห่งพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ฐานห้ามมิให้ผู้ใด ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ จากนั้นนำตัวนางกิตติอาภาและของกลาง สงสถานีตำรวจภูธรแม่แตงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง