กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งกรมชลฯ เร่งระบายน้ำ 6 จังหวัด ย้ำช่วยเหลือเกษตรกรทันทีที่น้ำลด ด้านกรมชลฯ ระดมเครื่องจักร-เครื่องมือปฏิบัติงานทุกพื้นที่ เฝ้าระวังความมั่นคงแข็งแรงฝาย หลังถูกน้ำป่ากัดเซาะ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ติดตามสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัดต่อเนื่อง โดยนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ รายงานว่ายังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ จ.นครราชสีมา กาญจนบุรี ราชบุรี จันทบุรี ระยอง และเพชรบุรี
สำหรับ อ.เมือง จ.นครราชสีมา น้ำท่วมขัง 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนมิตรภาพชอย 4 ชุมชนคุ้มวงษ์ ชุมชนสำโรงจันทร์ ชุมชนวีไอพี ชุมชนเกาะลอย และชุมชนมหาชัย รวม 53 ครัวเรือน ลำสาขาลำน้ำบริบูรณ์ ปริมาณน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 1 ชุมชน คือ ชุมชนบ้านหมื่นไวย์ ต.หมื่นไว รวม 10 ครัวเรือน ปริมาณน้ำที่ผันจากลำน้ำบริบูรณ์ไปยังบึงพุดซาและระบายไปยังลำเชียงไกรเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 1 ชุมชน คือ ชุมชนบ้านลำเชิงไกร รวม 60 ครัวเรือน โดยระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำบ้านซึม อ.พิมายสูงกว่าตลิ่ง 25 ซม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ส่วน อ.ปากช่องยังมีพื้นที่น้ำท่วมขังเขตบ้านคลองเดื่อ บ้านวังประดู่ บ้านคลองเพล บ้านโต่งโต้น บ้านท่ามะปรางค์ ต.หมูสี ขัง มีชาวบ้านได้รับผลกระทบประมาณ 80 หลังคาเรือน โดยปริมาณน้ำไหลหลากจะไหลลงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ปัจจุบันยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกกว่า 110 ล้านลบ.ม. ไม่เกิดผลกระทบกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำและอำเภอเมืองนครราชสีมา ระดับน้ำที่สถานี M.89 สะพานอาคารเซรุ่ม ต่ำกว่าตลิ่ง 2.58 เมตร แนวโน้มลดลง
จ.กาญจนบุรี ฝนตกลงในพื้นที่และอำเภอสวนผึ้งอย่างหนักและต่อเนื่องส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมในลำภาชีเออล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรกรรม น้ำล้นตลิ่งในเขตพื้นที่หมู่ 1 3 4 และ 6 ต.หนองไผ่และ ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย ความเสียหายเบื้องต้น 140 ครัวเรือน พื้นที่ 2,000 ไร่ ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำท่า K.62 บ้านหนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย สูงกว่าตลิ่ง 85 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง
ด้าน จ.ราชบุรี เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำหลากล้นตลิ่งแม่น้ำภาชีเข้าท่วมพื้นที่ราษฎร รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรม ได้แก่ ต.ตะนาวศรี และ ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ต.ด่านทับตะโก และต.แก้มอ้น อ.จอมบึง ลำห้วยแม่ประจันต์ ต.ยางหัก อ.ปากท่อ ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลง
จ.จันทบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ สอยดาว โป่งน้ำร้อน และเขาคิชฌกูฏ โดยระดับน้ำท่วมสูง 0.20-1.00 ม. ขณะนี้ฝายคอนกรีตเสริมเหล็กในคลองปะตง ซึ่งก่อสร้างโดยกรมโยธาธิการตั้งแต่ปี 2537 ถูกน้ำป่ากัดเซาะบริเวณคันดินหูฝายทั้ง 2 ฝั่งขาดเสียหาย แต่ระดับน้ำในคลองปะตงยังทรงตัว ย้ำให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากฝนหยุดตก คาดว่าจะสามารถเข้าตรวจสอบและประเมินความเสียหายของฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อขอรับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วน จ.ระยอง ได้รับรายงานว่าโครงการชลประทานระยองเร่งระบายน้ำท่วมขังถนนสายแหลมมะขาม ซ.2 ถึงร้านอาหารต้นทางรัก ประมาณ 0.10-0.50 ม. หากไม่มีฝนตกในพื้นที่ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติวันนี้
นายเฉลิมชัย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำ จ.เพชรบุรีว่า มีน้ำไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองหญ้าปล้อง อ.ชะอำ อ.แก่งกระจาน และ อ.ท่ายาง ประชาชนได้รับผลกระทบ 238 ครัวเรือน ขณะนี้อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 349 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำ 49 % ของความจุอ่าง ยังคงปิดการระบายน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 105 % ของความจุอ่าง จึงต้องระบายน้ำ 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก เพื่อให้ระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยผากมีปริมาณน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 73 % ของความจุอ่าง ซึ่งปิดการระบาย ทั้งนี้ จากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ประกอบกับปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ จะไหลไปรวมกับแม่น้ำเพชรบุรีที่มาจากเขื่อนแก่งกระจาน และห้วยผาก ก่อนเข้าสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นตัวควบคุมการระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีที่จะไหลลงไปสู่พื้นที่ตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรีต่อไป แต่ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลง รวมทั้งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทานอำนวยการในพื้นที่ตลอดเวลายืนยันว่าน้ำจะไม่ท่วมตัวเมืองเพชรบุรี ส่วนการระบายน้ำสู่ทะเลจะค่อย ๆ ลดลงเนื่องจาก แม่น้ำเพชรบุรีมีความลาดชันต่ำ
“ย้ำให้เฝ้าระวังทุกพื้นที่ เร่งระบายน้ำท่วมขังให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด อีกทั้งกำชับปลัดกระทรวงเกษตรฯ สั่งทุกหน่วยงานเข้าสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกทันทีที่น้ำลด” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
