สมุทรปราการ 11 ก.ย.- อธิบดีกรมชลประทาน สั่งสถานีสูบน้ำริมคลองชายทะเล 9 แห่ง เดินเครื่องเต็มที่เพื่อเร่งระบายน้ำที่รับจากมาจาก กทม. และน้ำที่ท่วมขังใน จ.สมุทรปราการ ออกอ่าวไทย พร้อมเปิดปิดประตูระบายน้ำให้สอดคล้องกับจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำและการเร่งระบายน้ำของสถานีสูบน้ำชายทะเลที่สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยย้ำให้เดินเครื่องเต็มที่เพื่อเร่งระบายน้ำจากคลองที่รับน้ำจาก กทม. ช่วยบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากฝนตกหนักและน้ำท่วมขังบางพื้นที่
ทั้งนี้ กรมชลประทานประสานกับ กทม. เรื่องการระบายน้ำระหว่างพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกรมชลประทานช่วยระบายน้ำจาก กทม. ด้วยการใช้สถานีสูบน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำ (ปตร.) เปรมใต้ สถานีสูบน้ำคลองหกวา สถานีสูบน้ำหนองจอก และสถานีสูบน้ำประเวศน์บุรีรมย์ โดยสูบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ระดับน้ำของพื้นที่ กทม. อยู่ในระดับควบคุม
เมื่อน้ำไหลลงมายังคลองชายทะเลที่ได้พร่องน้ำรองรับไว้ก่อนหน้านี้ จะใช้สถานีสูบน้ำหลักริมคลองชายทะเลทั้ง 9 แห่ง ที่มีอัตราระบายน้ำรวมกันประมาณ 227 ลบ.ม/วินาที หรือประมาณ 19 ล้าน ลบ.ม./วัน เร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ส่วนการเปิดประตูระบายน้ำ ต้องทำให้สอดคล้องกับจังหวะการขึ้น-ลงของน้ำทะเล โดยเมื่อน้ำทะเลลง เปิดประตูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลออกได้สะดวก ส่วนในจังหวะที่น้ำทะเลหนุนให้ใช้การสูบอย่างเต็มที่
นายประพิศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ให้สถานีสูบน้ำริมคลองชายทะเลเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ช่วงที่มีน้ำเหนือระบายลงมา พร้อมกับที่มีฝนตกในพื้นที่ โดยให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมจากสถานีสูบน้ำเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้มากและเร็วขึ้น เพื่อลดผลกระทบของประชาชนจากภาวะน้ำท่วมขังใน กทม. และสมุทรปราการให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย