ก.คลัง 12 ต.ค. – “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” เข้ากระทรวงการคลังวันแรก อัด 4 มาตรการ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/10/อาคม12-1024x768.jpg)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้ากระทรวงการคลังวันแรก เวลา 07.00 น. ด้วยรถโตโยต้า สีดำ ทะเบียน 8 กผ 3012 โดยสวมเสื้อผ้าไหมสีเหลือง และทันทีที่ก้าวลงจากรถ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะเข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงการคลัง
นายอาคม กล่าวเปิดใจครั้งแรกภายหลังการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า พร้อมทำงาน ยึดการทำงานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีนี้ติดลบ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกันทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมาตรการเร่งด่วนที่จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขลำดับแรก คือ การแก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้กับทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชนที่มีสัดส่วนมากกว่า 70% ของจีดีพี
2.การกระตุ้นฟื้นฟูกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 3.การฟื้นฟูการท่องเที่ยว ที่ต้องดูตลอด Supply Chain โดยได้มีการพูดคุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ว่า มีข้อเร่งรัดที่ติดขัดใดบ้าง ทั้งเรื่องของนักท่องเที่ยว สายการบิน โดยจะรีบดำเนินการแก้ไข ส่วนการขอซอฟท์โลนนั้น ศบศ.ได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ศึกษารายละเอียดความเหมาะสม
4.เร่งรัดผลักดันการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของจีดีพี ให้มีความต่อเนื่อง เป็นการล้างท่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมดูแลกระแสเงินสดของภาครัฐให้มีเพียงพอในการบริหารฟื้นฟูประเทศ
ทั้งนี้ ศบศ.ได้มอบหมายให้ สศช.ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการพิจารณากลั่นกรองโครงการภายใต้เงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม กรอบวงเงิน 400,000 ล้านบาทด้วย
ส่วนในอนาคตจะมีมาตรการระยะยาว เตรียมมาตรการ reopening ประเทศ โดยต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ด้านค่าเงินบาทต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เชื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการดูแลที่เหมาะสมอยู่แล้ว
ขณะที่วันที่ 14 ตุลาคมนี้ช่วงเช้า รมว.คลังจะมีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กระทรวงการคลัง และช่วงบ่ายจะมีประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง เพื่อหารือพูดคุยถึงการกำหนดทิศทางนโยบายอีกครั้งหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย