สงขลา 27 ม.ค.- “อาคม” ชวนชาวใต้ร่วม “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 5 ยอดจัดงานรวม 5 ครั้ง คาดมีรายย่อยเข้าร่วม 500,000 ราย ยอดหนี้ที่สามารถแก้ไขหนี้ได้ประมาณ 20,000- 30,000 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 5 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จังหวัดสงขลา ระหว่างในวันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. โดยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นการจัดมหกรรมสัญจรครั้งสุดท้าย หลังจากการจัดงานทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
กระทรวงการคลังยังคงบูรณาการการแก้ไขปัญหาหนี้สินร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การจัดมหกรรมสามารถให้ความช่วยเหลือได้ครอบคลุมทั้งลูกหนี้ของสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ และลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ ภายในงานจะยังคงประกอบด้วยกิจกรรม 3 กิจกรรมหลักเช่นเดิม ได้แก่
- (1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง
- (2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพและเติมทุนหมุนเวียนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม
- (3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน
โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร ครั้งที่ 5 สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/Consent.aspx หรือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่หน้างานมหกรรม
การจัดงานในครั้งนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน ยอดจัดงานรวม 5 ครั้ง คาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาร่วมงานประมาณ 500,000 ราย ยอดหนี้ที่สามารถแก้ไขหนี้ได้ประมาณ 20,000- 30,000 ล้านบาท
ภายในงานจะได้พบกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินภายใต้เงื่อนไขแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระการผ่อนชำระ การลดอัตราดอกเบี้ย การลดอัตรากำไรสำหรับลูกหนี้ไอแบงก์ การขยายเวลาการชำระหนี้ ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ การตัดเงินต้นเพิ่มเติม โดยครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อประเภทต่างๆ อาทิ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจ ลูกหนี้บัตรเครดิต ฯลฯ ควบคู่กับการให้คำปรึกษาทางการเงิน การเติมองค์ความรู้ในการฟื้นฟูอาชีพเดิม การสร้างอาชีพเสริม อาชีพใหม่ และการเติมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยพิเศษหรืออัตรากำไรพิเศษสำหรับลูกหนี้ไอแบงก์และเงื่อนไขที่ผ่อนปรน
นอกจากนี้ยังมีบริการด้าน “การพัฒนา” ผ่านโครงการ “SME D Coach” ช่วยยกระดับธุรกิจ เพิ่มศักยภาพกิจการ ให้คำปรึกษาธุรกิจโดยโค้ชมืออาชีพ ฟรี จำหน่ายทรัพย์ NPA คุณภาพดี ทำเลดี ในราคาที่เข้าถึงง่าย กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) บริการให้คำปรึกษาและตรวจสุขภาพการเงิน กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริการทางการเงินอีกมากมายจากสถาบันการเงินพันธมิตร นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมบรรยายให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) พร้อมกิจกรรมไฮไลท์บนเวทีตลอดทั้งงาน
สำหรับประชาชนในจังหวัดอื่น ๆ ที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้สามารถลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ผ่านระบบของธนาคารแห่งประเทศไทยจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 ได้ทางเว็บไซต์ https://www.bot.or.th/DebtFair จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ที่ประสบปัญหาหนี้สินให้เข้าร่วมงานเพื่อขอรับการช่วยเหลือซึ่งเป็นการจัดมหกรรมครั้งสุดท้าย หรือเร่งลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ผ่านระบบของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งใกล้จะสิ้นสุดแล้ว โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานพันธมิตรทั้งหมดมีความตั้งใจจริงที่จะร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนให้สำเร็จได้ในที่สุด .-สำนักข่าวไทย