“พิชัย” เตรียมปั้น LTF-ESG กองใหม่ ถือครอง 5 ปี

กรุงเทพ 13 ก.พ.- “พิชัย” เตรียมดึงเงินคืนตลาดหุ้น ผ่อนปรนเก็บภาษีเงินได้สำหรับคนที่นำเงินกลับจากต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าแอลทีเอฟอีเอสจีถือขั้นต่ำ 5 ปี พร้อมทดลองออก บอนด์ โทเคนไนซ์ 5,000 ล้าน ชี้ไทยจะเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาคหากรถไฟความเร็วสูงมาตามสัญญา


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยในงาน INVESMENT FORUM 2025 33 years ONEAM ว่า กระทรวงการคลังกำลังทบทวนผ่อนปรนเกณฑ์เรื่องการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีเงินได้จากต่างประเทศ และนำเข้ามาในประเทศไทยใหม่ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ และสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนนำเงินลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาในประเทศเพิ่ม  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยเพิ่งมีการแก้กฎหมาย ว่านักลงทุนที่มีรายได้ไม่ว่าจะปีไหนก็ตาม หากนำเข้ามาในไทย ให้เสียภาษีเงินได้ปีนั้น ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนจากเดิมที่จะให้คิดภาษีเฉพาะการนำเงินเข้ามาในปีเดียวกันกับปีที่มีเงินได้ เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา หรือ โออีซีดี แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริบทได้เปลี่ยนไปมีบางประเทศไม่ได้ยึดกติกาเดิม เราจึงต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะในส่วนของเงินที่มีการนำออกไปลงทุนในต่างชาติยังพบว่ายังมีน้อยเมื่อเทียบกับเงินที่นำเข้ามา 


โดยขณะนี้การลงทุนในประเทศน้อยลง ขณะที่คนที่มีรายได้จากการลงทุน ก็นำเงินไปลงทุนต่างประเทศ แต่พบว่า เงินที่นำเข้ามาน้อยกว่าเงินที่นำไปลงทุน ทางกระทรวงการคลังก็อยากแก้ไขหรือจูงใจให้มีการนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ทั้งนี้ในปัจจุบันคนไทยที่มีเงินได้จากต่างประเทศ เมื่อนำเงินรายได้นั้นเข้าประเทศจะต้องเสียภาษีเงินได้ให้กับรัฐบาลซึ่งตนกำลังพิจารณาทบทวนกฎหมายนี้ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยนำเงินเข้าประเทศ แต่เรื่องนี้อยู่ระหว่างศึกษา ยังไม่สรุปว่าจะเลื่อนเก็บออกไปตอนไหน และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนแนวคิดการจัดตั้งกองทุนแอลทีเอฟ ไทยอีเอสจีนั้น ยืนยันว่ากองทุนนี้จะเป็นการตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ไม่ได้มีการซ้ำซ้อนจากกองทุนเดิม ซึ่งลักษณะเป็นการเปิดให้นักลงทุนเข้ามาถือครองหุ้นในระยะยาวไม่ต่ำกว่า 5 ปีแต่วงเงินยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็นเท่าไร และน่าจะเห็นผลในเร็วๆ นี้ โดยการลงทุนจะเน้นการลงทุนในหุ้นภายในประเทศที่เกี่ยวกับอีเอสจีเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมาย และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการโยกเงินกองทุนแอลทีเอฟ ที่ครบอายุและนักลงทุนที่ไม่อยากขายเพราะขาดทุน เข้าสู่กองทุนไทย อีเอสจี ซึ่งจะตั้งเป็นกองใหม่ เพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ต่อเนื่อง

ขณะที่การเปิดทดลองเปิดการลงทุน บอนด์ โทเคนไนซ์ ซึ่งไม่ต้องมีสินทรัพย์ มาการันตี เบื้องต้นจะมีวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยเปิดให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุน ซึ่งสามารถเข้ามาลงทุนเท่าไรก็ได้เพราะจะเป็นหน่วยลงทุนแบบมีจุดทศนิยม และเปิดให้ซื้อขายได้ผ่านแพลตฟอร์มไม่ต้องมาซื้อผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารซึ่งจะทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการถูกลงกว่าเดิม


นอกจากนี้ คลังยังมีแนวคิดที่จะรวมกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และ พ.ร.บ. สินทรัพย์ดิจิทัล ไว้ด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนเนื่องจากทุกวันนี้ในการลงทุนทั้ง 2 ประเภทถือว่าเป็นเงินก้อนเดียวกันก็ควรจะให้สามารถทำผ่านด้วยกันได้

นายพิชัย ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไปการลงทุนในไบโอเทคจะต้องเข้ามาในบ้านเรา หากมีการลงทุนระดับ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปรัฐบาลจะดูแลเต็มที่ การท่องเที่ยวปี 67 ตัวเลขนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน ปีนี้ ปี 68 ตั้งเป้า 39 ล้านคน รวมทั้งรถไฟความเร็วสูงหากทำสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ จะมีการเชื่อมโยงกับจีนที่มีประชากร 1,400 ล้านคน ส่งสินค้าผ่าน สปป.ลาว เข้าไทย ไปที่ จ.ระนอง ไปมาเลเซีย ไปสิงคโปร์ ขากลับจะมีสินค้าจากฝั่งอันดามันขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาคนี้ เรื่องแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการใหญ่ มีนักลงทุนสนใจจำนวนมาก ล่าสุดมี 2 บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาเพื่อหารือแล้ว.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]